เคยเขียนเรื่อง ประธานาธิบดีอเมริกาที่ได้รับความนิยมสูงสุด ไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยประธานาธิบดี Top 3 ตลอดกาลคือ George Washington, Abraham Lincoln, Franklin D. Roosevelt ซึ่งย้อนดูผลงานแล้วก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะมีบทบาทสำคัญในช่วงเหตุการณ์สำคัญของประเทศ ได้แก่
- George Washington สงครามปลดปล่อยอิสรภาพจากอังกฤษ (Revolutionary War)
- Abraham Lincoln สงครามกลางเมืองเหนือ-ใต้ (Civil War)
- Franklin D. Roosevelt สงครามโลกครั้งที่สอง
วันนี้มาเจอบทความใน Washington Post พูดถึง “ด้านกลับ” คือ ประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ (The Worst President) รู้สึกว่าน่าสนใจดี
Washington Post เลือก James Buchanan ประธานาธิบดีคนที่ 15 (คนก่อน Lincoln) เป็นประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยเหตุผลหลายประการ
จากสถิติแล้ว Buchanan ก็มักติดกลุ่มท็อปๆ ของการโหวตประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดเสมอ แต่ผมคิดว่าปัจจัยสำคัญมาจาก Buchanan เป็นผู้ที่เร่งให้เกิดสงครามกลางเมืองอเมริกา (ซึ่งเป็น taboo สำคัญของสังคมอเมริกันมาจนถึงทุกวันนี้ในเรื่องสีผิว)
บล็อกอื่นที่เกี่ยวข้อง
ถ้ามองด้วยแว่นของประวัติศาสตร์ สิ่งที่ทำให้อเมริกาแตกแยกหนักที่สุดเรื่องทาส (ดีกรีความรุนแรงของสงครามกลางเมืองคือถึงขั้นทำให้ฝ่ายใต้แยกประเทศ ในขณะที่สงครามปลดปล่อยอิสระภาพ หรือสงครามโลก เป็นการต่อสู้กับศัตรูภายนอก ที่คนในประเทศรวมใจเป็นหนึ่ง)
และสงครามกลางเมืองจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายเหนือ (ที่ไม่สนับสนุนทาส) อเมริกาทุกวันนี้คืออเมริกาฝ่ายเหนือ ดังนั้นพอมองด้วยแว่นของประวัติศาสตร์กลับไป Lincoln ในฐานะผู้นำสงครามปลดปล่อยทาสจึงกลายเป็นฮีโร่สำคัญ
ในทางกลับกัน ผู้นำประเทศคนอื่นในยุคนั้นที่สนับสนุนการมีทาส ก็ย่อมกลายเป็นผู้ร้ายสำคัญด้วย ซึ่ง Franklin Pierce, James Buchanan สองประธานาธิบดีคนก่อน Lincoln และ Andrew Johnson ที่เป็นประธานาธิบดีต่อจาก Lincoln (เพราะโดนลอบสังหาร) ก็ล้วนแต่ติดอันดับโหล่ๆ ของประธานาธิบดีในประวัติศาสตร์ด้วยกันทั้งสิ้น
แต่เคสของ Buchanan แย่เป็นพิเศษ เพราะมีปัจจัยอื่นๆ มาเสริมให้มันแย่ด้วย เช่น
- ตัดสินใจ (ทางนโยบาย) ได้แย่
- เลือกคณะรัฐมนตรีได้แย่ ส่วนใหญ่สนับสนุนทาส และบางคนคอร์รัปชันด้วย
- พอมีความขัดแย้งหนักๆ เรื่องทาส ก็นิ่งเฉย เพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำ
- พอคนไปถามหนักๆ เข้า ก็โกรธคนวิจารณ์อีก
- กลั่นแกล้ง บีบคั้น เพื่อนร่วมพรรค (ฝ่ายเหนือที่ต่อต้านทาส)
- แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ในวิกฤตเศรษฐกิจปี 1857
Buchanan เป็นผลพวงของพรรค Democrat (ในยุคนั้น) ที่เปลี่ยนจากพรรคฝ่ายดีมีหลักการ กลายมาเป็นพรรคมาเฟียที่ถูกอิทธิพลจากทางใต้
For a time, the Democrats became a meaningfully national party, with a big tent that included many Northerners, and some Southerners who did not love slavery.
But greed and paranoia began to change Democrats in the 1850s, and Southern bosses began to practice an angrier politics, flaunting their wealth, calling for new slave states in Cuba and northern Mexico and arguing that slavery was good for America. Buchanan was happy to acquiesce, and was prominently involved with efforts to bring in Cuba, by force if necessary.
ที่แย่ที่สุดคือ พอ Lincoln ชนะเลือกตั้งในเดือน พ.ย. 1960 และมีช่วงว่างก่อนรับตำแหน่งในเดือนมีนาคม 1961 ซึ่งตอนนั้น Buchanan ยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ประเทศกำลังจะเกิดสงครามแยกตัว เขาก็อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร ไม่สามารถจัดการอะไรได้
Sarcastically, a leading Republican, William Seward, remarked that Buchanan’s policy was that no Southern state had a right to secede … unless it wanted to.
ถ้าเทียบกับประธานาธิบดีคนอื่นที่ชื่อเสียงไม่ดี Buchanan จึงดูรับเละกว่าเพื่อน เพราะเจอปัญหารุมเร้าทุกทาง และไม่สามารถแก้อะไรได้เลย
Andrew Johnson stubbornly refused to work with Congress; Herbert Hoover was overwhelmed by the Depression; Nixon felt that he was above the law. Buchanan shared traits with all of them; a difficult trifecta to recover from
บทความของ Washington Post ออกมาเพื่อเปรียบเทียบ Trump ว่าจะกลายเป็นประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์แทนที่ Buchanan หรือไม่ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้องรอประวัติศาสตร์มาจารึกย้อนหลังกันต่อไป
ภาพประกอบจาก Wikipedia