in Politics, Thoughts

Donald Trump ในประวัติศาสตร์

Donald Trump เป็นประธานาธิบดีที่ไม่เหมือนใคร มีทั้งคนชอบมากๆ และเกลียดมากๆ มีทั้งผลงานจริงและความอิหยังวะ ยังไงก็ไม่รู้

คำถามที่น่าสนใจคือถ้าเราขยับตัวเองไปอยู่ในอนาคตอีก 10-20-100 ปีข้างหน้า เราจะมอง Trump อย่างไร?

ผมพยายามถามคำถามนี้กับตัวเองมาหลายครั้ง และได้ข้อสรุปว่า Trump น่าจะเปรียบได้กับ “Anti-Body ของอเมริกา” นั่นคือเปรียบเสมือนยาหรือสารที่เข้ามาปรับสภาพร่างกายของอเมริกาที่กำลังอ่อนแอให้เข้มแข็งขึ้น แต่ระหว่างทางก็สร้างผลค้างเคียงตามมาเช่นกัน

ถ้าเรามองภาพรวมประวัติศาสตร์อเมริกาจากระยะไกลขึ้น พอจะสรุปได้ง่ายๆ ดังนี้

  • ยุค 90s ของบุชคนพ่อ-คลินตัน อเมริกาทะยานขึ้นถึงจุดสูงสุด เพราะชนะสงครามเย็น โชว์พาวในสงครามอ่าว เศรษฐกิจรุ่งเรือง เกิด Washington Consensus
  • ยุค 2000s ของบุชคนลูก อเมริกาที่แข็งแกร่งต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ 2 อย่างคือ 9/11 (ที่ตามมาด้วยสงคราม) และ 2008 Financial Crisis ทำเอาเป๋หนัก
  • ยุค 2010s ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่วงของโอบามา ก็เน้นที่การตามแก้ปัญหาของยุคก่อนหน้า โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ

ความอ่อนแอของอเมริกาในยุค 2000s เกิดจากทั้งที่ไม่ตั้งใจ (9/11) และพลาดพลั้ง (Financial Crisis) ทำให้รัฐบาลโอบามาต้องสาละวนกับการแก้ปัญหาภายใน เปิดโอกาสให้จีนที่อยู่ในช่วงขาขึ้น สามารถสร้างอิทธิพลต่อโลกได้ทั้งจากเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง

อิทธิพลของจีนเริ่มส่งผลกระทบต่อสหรัฐอย่างจริงจังในช่วงปลายทศวรรษ 2010s โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ เพราะอเมริกาไม่สามารถผลิตของได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูญเสียตำแหน่งงาน สูญเสียพลังทางเศรษฐกิจไปให้จีน (บวกกับปัจจัยอื่นๆ เช่น โลกเราเองก็อยู่ในช่วงภาวะผลิตภาพล้นเกิน คนมากกว่างาน เทคโนโลยี AI จะมาแทนคน ฯลฯ) ทำให้สหรัฐต้องการ “อะไรบางอย่าง” มาปรับสภาวะความไม่สมดุลนี้

“อะไรบางอย่าง” นั้นก็คือ Trump

ตัวผมเองก็ไม่ชอบ Trump หลายอย่าง และอยากให้เขาแพ้การเลือกตั้งปี 2020 แต่ก็ต้องยอมรับว่า Trump มีผลงานจริงๆ และกล้าลงมือทำหลายเรื่องที่อาจไม่เท่นัก แต่ก็จำเป็นต้องทำ (Get Your Hands Dirty) เช่น การประกาศขึ้นภาษี สงครามการค้า การหยุดคลื่นผู้อพยพที่ยิ่งจะทำให้เศรษฐกิจอเมริกันแย่ลง

คิดว่าประวัติศาสตร์น่าจะจดจำ Trump ในบทบาทนี้ เขาคงไม่ใช่ประธานาธิบดีอันดับหนึ่งในดวงใจ เป็นวีรบุรุษแบบ Lincoln หรือไม่ใช่สุภาพบุรุษคนดำ ผู้ที่เรื่องส่วนตัวแทบไม่ด่างพร้อยแบบ Obama แต่คงจะเป็นมุมของนักปฏิบัติผู้กล้าทำหลายๆ สิ่ง แม้จะหยาบคายเกินไปมากก็ตาม

ภาพจาก Facebook Donald J. Trump