Death by China เป็นหนังสือปี 2011 ที่เขียนโดย Peter Navarro อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ University of California, Irvine ซึ่งมีมุมมองนอกกระแสหลัก (เป็นแนว isolationist/ protectionist ซึ่งขัดกับเศรษฐกิจเสรี globalization ในยุคนั้น)
หนังสือพูดถึงเศรษฐกิจของอเมริกาที่กำลังจะตาย เพราะการย้ายฐานการผลิตของบริษัทอเมริกันออกจากแผ่นดินอเมริกาไปยังประเทศจีน
นอกจากหนังสือแล้วยังมีสารคดีปี 2012 ความยาวประมาณ 1.20 ชั่วโมง สรุปเนื้อหาจากหนังสือ รวมถึงสัมภาษณ์ผู้ที่มีบทบาทในภาคการผลิต-การเมืองของอเมริกาในแง่มุมต่างๆ ด้วย (ดูได้ฟรีบน YouTube ตามที่แปะไว้)
การมาอ่าน-ดูเรื่อง Death by China ในปี 2023 อาจเก่าไปสักหน่อยแล้ว เพราะรัฐบาลอเมริกันในยุคของ Donald Trump ก็เดินหน้าตามข้อเสนอของ Navarro เปิดสงครามทางการค้ากับจีนเต็มรูปแบบ และยังต่อเนื่องมายังรัฐบาล Biden ในปัจจุบันด้วย
อย่างไรก็ตาม การย้อนดูความคิดของ Navarro ที่เป็นศูนย์กลางและต้นคิดเรื่องนโยบายสงครามการค้า ก็ช่วยให้เราเข้าใจที่มาและเหตุผลได้ดียิ่งขึ้น
สารคดีย้อนความไปยังปี 2001 ที่ประเทศจีนเข้าเป็นสมาชิกของ WTO ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลคลินตัน ซึ่งมุมมองของสหรัฐในยุคนั้นคือต้องการใช้การค้าเสรี ช่วยผลักดันให้จีนเปิดประเทศ และหวังว่าจะเป็นประเทศเสรีมากขึ้นในระยะยาว
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น (นับถึงปี 2011 ที่หนังสือออกขาย และปี 2012 ที่สารคดีฉาย) คือ โรงงานและอุตสาหกรรมการผลิตย้ายฐานจากอเมริกาไปจีน คนอเมริกันสูญเสียงาน ในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองในจีนก็ไม่ได้เสรีขึ้นกว่าเดิม หรือแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ (ยุคนั้นคือสีจิ้นผิงเพิ่งขึ้นมาครองอำนาจใหม่ๆ ยังไม่ได้กดขี่มากเหมือนในยุคหลังๆ ด้วย)
ในหนังสือและสารคดี ใช้คำว่า Weapons of Job Destruction (ล้อกับคำว่า Weapons of Mass Destruction) บอกว่าจีนมียุทธศาสตร์อะไรบ้างในการ “ทำลาย” งานของคนอเมริกัน
- สิ่งแวดล้อม สารพิษ
- ปัญหากดขี่แรงงาน บีบค่าแรง ให้แข่งขันต้นทุนได้
- การตรึงค่าเงินหยวนให้ถูก
- ปัญหาของปลอม-ละเมิดลิขสิทธิ์
- การอุดหนุนอุตสาหกรรมในประเทศให้แข่งขันได้ (illegal subsidy)
ข้อเสนอของ Navarro ในตอนนั้นคือ การสร้างงานในสหรัฐไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิรูปความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน (The Best Job Program is Trade Reform with China) ซึ่งในอีก 4 ปีหลังจากนั้น Navarro ก็ทำสำเร็จ เพราะเขาได้เป็น Director of Trade and Manufacturing Policy ตำแหน่งใหม่ในรัฐบาล Donald Trump และมีบทบาทอย่างสูงในการเปิดสงครามการค้ากับจีนในยุคของ Trump นั่นเอง
ถึงแม้มุมมองบางอย่างของ Navarro จะขวาจัดมาก (เช่น เขาพยายามล้มผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่ Trump แพ้) แต่เขาก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดีมากของคนที่มีไอเดียแหวกกระแสหลัก แต่สุดท้ายก็สามารถผลักดันให้มันเกิดได้จริงๆ และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้