ภาพประกอบสร้างด้วย Bing Image Creator พบว่าเขียน Pax Americana ผิด แถมดาวเบี้ยวอีกต่างหาก แต่ก็ตลกดีเลยนำมาใช้งาน
เคยเขียนเรื่อง The End of Pax Americana จากบทความของ Noah Smith ไปครั้งหนึ่งแล้ว
ล่าสุดได้อ่านบทความส่งท้ายปี 2023 ของ Niall Ferguson นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง เขียนเรื่องคล้ายๆ กัน The US and Europe Risk Flunking Geopolitics 101 ชี้ประเด็นว่า อเมริกาและยุโรป (ภายใต้ Pax Americana) เสื่อมถอยลง ดังเห็นได้จากการสนับสนุนยูเครนที่ลดลง และจะส่งผลให้ Pax Americana ยิ่งเสื่อมถอยลงอีกในอนาคต
Niall อ้างหนังสือเก่าของเขา Colossus: The Price of America’s Empire ที่เขียนในปี 2004 ช่วงที่อเมริกาเริ่มสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน เขาชี้ว่าโลกภายใต้การนำของ “จักรวรรดิอเมริกัน” (American Empire) ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเข้าไป “จัดระเบียบ” ภูมิภาคตะวันออกกลาง (reorder the Greater Middle East) ได้อย่างที่ฝ่ายขวาบางรายฝันไว้ ซึ่งสุดท้ายอเมริกาไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในอิรักและอัฟกานิสถานที่กลายเป็นพันธมิตรของอเมริกาได้จริงๆ
เหตุผลที่ Niall มองว่าอเมริกาทำไม่ได้ เป็นเพราะขาดแคลน 3 ปัจจัย (three deficits) โดยเขาเปรียบเทียบกับศักยภาพและขีดความสามารถของ British Empire ในอดีตด้วย
- Economic deficit – อธิบายง่ายๆ คือขาดเงิน เพราะจักรวรรดิอเมริกันในยุคนี้ ไม่ได้รวย แถมเป็นหนี้เขาไปทั่วโลกต่างหาก ต่างจากจักรวรรดิอังกฤษยุควิคตอเรียที่รวยมาก ลงทุนในโพ้นทะเลไว้มหาศาล “If you want to run the world, it helps to own much of it — rather than to owe it.”
- Manpower deficit – ขาดทรัพยากรคน เพราะคนอเมริกันไม่ได้นิยมออกไปอาศัยอยู่ตามโพ้นทะเล แบบเดียวกับที่คนอังกฤษในยุคล่าอาณานิคมทำกัน ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดคือ ทหารอเมริกันที่ไปประจำการในตะวันออกกลาง ไปกันแค่แปปๆ แถมไปอยู่แต่ในค่ายทหารอเมริกันที่ตัดขาดจากชนพื้นเมือง เรียกได้ว่าทหารอเมริกันจะไม่มีทางเข้าใจภาษา วัฒนธรรม ของคนพื้นถิ่นเลย
- Attention deficit – ความสนใจในประเด็นต่างประเทศของคนอเมริกันและนักการเมือง มีระยะเพียงไม่กี่ปี กรณีของตะวันออกกลางมีเวลานานถึงแค่จบสมัยแรกของประธานาธิบดี George W. Bush เท่านั้น ยิ่งพอเปลี่ยนมาสู่ยุค Obama ก็ประกาศตัวชัดเจนว่าไม่สนับสนุนสงคราม อเมริกาไม่ได้เป็นตำรวจโลกอีกต่อไป (ซึ่งจุดยืนของ Niall วิจารณ์คัดค้าน)
เวลาผ่านมา 20 ปี สามปัจจัยข้างต้นยิ่งเป็นปัญหาต่ออิทธิพลของสหรัฐอเมริกามากกว่าเดิมอีก
- หนี้สาธารณะเพิ่มจาก 59% ต่อ GDP มาเป็น 120%
- จำนวนทหารประจำการของกองทัพสหรัฐ เหลือ 4.5 แสนคน ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับจากสงครามโลกครั้งที่สอง
- ความสนใจต่อปัญหาต่างประเทศยิ่งน้อย คนอเมริกามองว่าไปยุ่งเรื่องการทหารมากเกินไปด้วยซ้ำ ความสนใจต่อสงครามยูเครนก็แทบหายไปจากหน้าสื่ออเมริกันในช่วงหลัง (ข่าว Taylor Swift ยังดังซะกว่า) และยิ่งมีสงครามอิสราเอลปะทุขึ้นมา ข่าวสงครามยูเครนถูกกลบมิดเลย
Niall วิจารณ์ว่า สภาคองเกรสยังไม่สามารถผ่านกฎหมายสนับสนุนยูเครนมูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ได้ และมีมุมมองกันในหมู่คนยูเครนแล้วว่า หาก Trump ได้เป็นประธานาธิบดีอีกรอบในการเลือกตั้งปี 2024 การสนับสนุนยูเครนน่าจะหายไปเลย ส่งผลให้ยูเครนที่มีทรัพยากรด้านการทหารจำกัดอยู่แล้ว จะประสบปัญหายิ่งขึ้นเพราะฝั่งรัสเซียเริ่มตั้งตัวได้แล้ว จะมีจำนวนอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมกว่ามาก
ถึงแม้ว่าประเทศฝั่งยุโรปยังให้ความสนับสนุนแก่ยูเครนอยู่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ประเมินกันไว้ และเป็นไปได้ว่า ยูเครนจะถูกบีบให้เจรจาสงบศึกกับรัสเซีย โดยที่อำนาจต่อรองในมือยังไม่มากเพียงพอ
หากยูเครนต้องถอนกำลังทหารบางส่วน ฝ่ายที่กระทบหนักคือยุโรป ที่ต้องรับผู้อพยพอีกจำนวนมาก (ใช้เงินในการดูแลผู้อพยพ), เศรษฐกิจยูเครนตกต่ำลง และยุโรปต้องลงทุนในด้านกลาโหมเพิ่มอีกมหาศาลเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากรัสเซียในอนาคต
Writing in 2003, I was not in principle against a pax americana in succession to the pax britannica of the 19th and early 20th centuries. I took (and still hold) the now heretical position that most history is the history of empires; that no empire is without its injustices and…
— Niall Ferguson (@nfergus) December 31, 2023
Niall ชมว่า แม้อเมริกาและพันธมิตรไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งหรือสงครามเหล่านี้ปะทุขึ้นเป็นการล่วงหน้า แต่เมื่อสงครามเกิดแล้ว รัฐบาล Biden ก็ให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง ทั้งการสนับสนุน 75 พันล้านดอลลาร์แก่ยูเครน หรือการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปสนับสนุนอิสราเอล
Niall ชี้ว่าความเสื่อมถอยของ Pax Americana จะทำให้ขั้วอำนาจนี้ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจาก จีน รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ ที่จับมือประสานงานกัน ศึกแรกคือยูเครนเกิดขึ้นแล้ว ศึกที่สองคือสงครามตัวแทนของอิหร่านต่อิสราเอล และศึกที่สาม เป็นไปได้สูงว่าเป็นเรื่องจีนปิดล้อมไต้หวัน
เขาบอกว่าสาเหตุของปัญหาเหล่านี้เกิดจากสงครามตะวันออกกลาง (War on Terror) ที่ล้มเหลว ทำให้ชาวอเมริกันหันมาสนใจแต่ปัญหาของตัวเองเป็นหลัก “US interests are better served by using our resources to improve life for ordinary Americans at home.” ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ และอยู่ในฝ่าย “US interests are best served by supporting freedom and democracy around the world when they are under threat.”