in Politics

A Dose of Hope

ภาพฉีดวัคซีนจาก CDC

เมื่อวานฟังสุนทรพจน์ของ Joe Biden ที่แถลงต่อที่ประชุมร่วมสองสภา (Joint Session of Congress) มีประเด็นน่าสนใจหลายอย่างเลยมาจดไว้เป็นที่ระลึก

คลิปดูได้จากที่ฝังไว้ด้านล่าง และเว็บไซต์ทำเนียบขาวมี transcript ให้สำหรับคนที่อยากอ่านไปด้วย (ไม่เหมือนกัน 100% เพราะ Biden มีนอกบทนิดๆ หน่อย)

บริบทของสุนทรพจน์นี้คือ Biden ทำงานมากำลังจะครบ 100 วัน เลยมาโชว์ผลงานในรอบ 100 วันที่ผ่านมา ซึ่งก็ประสบความสำเร็จหลายอย่าง ทั้งเรื่องวัคซีน และเรื่องเศรษฐกิจ

กรณีของเรื่องวัคซีน สามารถฉีดได้ 220 ล้านโดสแล้ว ทะลุเกินเป้า (ทั้งนี้ต้องยกความดีเรื่องวัคซีนจาก Operation Warp Speed ที่มาตั้งแต่ยุคทรัมป์ด้วย เคยเขียนเอาไว้)

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ ต้องอธิบายก่อนว่า Biden มีแผนใหญ่เรื่องเศรษฐกิจที่เรียกว่า Build Back Better ประกอบด้วยแผนย่อย 3 ข้อคือ

  • American Rescue Plan แผนแจกเงิน ช่วยเหลือเร่งด่วน
  • American Jobs Plan แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สร้างงาน
  • American Families Plan แผนยกระดับคุณภาพชีวิต รัฐสวัสดิการ ซึ่งเปิดตัวในสุนทรพจน์นี้

ผมเคยเขียนเรื่อง American Jobs Plan ไว้ใน The 101 World ไว้ค่อนข้างละเอียดแล้ว คงไม่ต้องเขียนซ้ำ

กลับมาที่สุนทรพจน์กันดีกว่า

เปิดมาก็เท่แบบสุดๆ แล้วเพราะว่าตามธรรมเนียม ประธานาธิบดีซึ่งเป็นคนพูด จะต้องเอ่ยถึงคนสำคัญในห้องประชุมสภาตามตำแหน่งก่อน เริ่มจากประธานสภาผู้แทนราษฎร (Speaker of the House) แล้วตามด้วยรองประธานาธิบดี (Vice President) ซึ่งถือเป็นประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง

เผอิญว่าประธานทั้งสองสภาดันเป็นผู้หญิง คำเรียกหาจึงต้องเป็น “มาดาม” ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ พอพูด Madame Vice President จบ ไบเดนจึงหันกลับไปหา Kamala Harris แล้วพูดว่าไม่เคยมีประธานาธิบดีคนไหนมายืนบนโพเดียมนี้แล้วพูดคำนี้มาก่อนนะ แต่นี่ถึงเวลาแล้ว (แนะนำให้ชมคลิป)

Madame Speaker.

Madame Vice President.

No president has ever said those words from this podium, and it’s about time.

ถัดจากนั้นเป็นการสรุปสถานการณ์ของประเทศช่วงก่อนรับตำแหน่ง ซึ่งคนเขียนสปีชเก่งมากทีเดียว มีจังหวะคล้องจองของคำกันอย่างดี

100 days since I took the oath of office, lifted my hand off our family Bible, and inherited a nation in crisis.

The worst pandemic in a century.

The worst economic crisis since the Great Depression.

The worst attack on our democracy since the Civil War.

Now, after just 100 days, I can report to the nation: America is on the move again.

Turning peril into possibility. Crisis into opportunity. Setback into strength.

Life can knock us down.

But in America, we never stay down.

In America, we always get up.

And today, that’s what we’re doing: America is rising anew.

Choosing hope over fear. Truth over lies. Light over darkness.

After 100 Days of rescue and renewal, America is ready for takeoff.

We are working again. Dreaming again. Discovering again. Leading the world again.

We have shown each other and the world: There is no quit in America.

ถัดมาเป็นผลงานในช่วง 100 วันแรกที่รับตำแหน่ง ซึ่งเริ่มจากเรื่องสำคัญที่สุด (และประสบความสำเร็จที่สุด) คือเรื่องการฉีดวัคซีน

รัฐบาลไบเดนสามารถทำตามเป้าฉีด 100 ล้านโดสใน 100 วันแรกได้สำเร็จ โดยทะลุเกินเป้า 2 เท่าคือฉีดได้ 220 ล้านโดส

ตรงนี้ถือว่ากลไกรัฐทำงานได้ดีเยี่ยม เพราะสามารถขับเคลื่อน (ไบเดนใช้คำว่า marshalling คือเหมือนกับช่วงสงคราม) การกระจายและการฉีดวัคซีนได้มีประสิทธิภาพมาก สหรัฐใช้โมเดลการฉีดมันทุกที่ ให้ร้านขายยาช่วยเป็นจุดฉีด ตั้งเต๊นต์ฉีด มีรถโมบายออกฉีดตามบ้าน

พอกระจายวัคซีนได้สำเร็จ ก็พร้อมรับฉีดทุกคนแล้ว ตรงนี้อยากใช้ชมคลิปตอนที่ไบเดนตะโกนว่า มาฉีดกันได้แล้ว (get vaccinated now) ประทับใจมาก (เมื่อบวกกับสถานการณ์ในไทย ณ สิ้นเดือนเมษายน ก็ยิ่งอินเพราะเศร้าใจแทนตัวเอง)

After I promised 100 million COVID-19 vaccine shots in 100 days – we will have provided over 220 million COVID shots in 100 days.

We’re marshalling every federal resource. We’ve gotten the vaccine to nearly 40,000 pharmacies and over 700 community health centers.

We’re setting up community vaccination sites, and are deploying mobile units into hard-to-reach areas.

Today, 90% of Americans now live within 5 miles of a vaccination site.

Everyone over the age of 16, everyone – is now eligible and can get vaccinated right away.

So get vaccinated now.

จากนั้นเป็นช่วงซึ้ง เพราะไบเดนไปเยี่ยมจุดฉีดวัคซีน แล้วถามพยาบาลที่ฉีดวัคซีนว่ารู้สึกอย่างไร คำตอบของเธอคือ ทุกช็อตคือวัคซีนแห่งความหวัง (a dose of hope)

When I was sworn in, less than 1% of seniors were fully vaccinated against COVID-19.

100 days later, nearly 70% of seniors are fully protected.

Senior deaths from COVID-19 are down 80% since January. Down 80%.

And, more than half of all adults in America have gotten at least one shot.

At a mass vaccination center in Glendale, Arizona, I asked a nurse what it’s like.

She looked and said every shot feels like a dose of hope.

A dose of hope for the educator in Florida who has a child who suffers from an auto-immune disease.

She wrote to me that she was worried about bringing the virus home.

When she got vaccinated, she sat in her car and just cried.

Cried out of joy, cried out of relief.

Parents are seeing smiles on their kids’ faces as they go back to school because teachers and school bus drivers, cafeteria workers have been vaccinated.

Grandparents hugging their children and grandchildren instead of pressing their hands against a window to say goodbye

It means everything to both of them.

ที่เหลือเป็นเรื่องของการอธิบายผลงานและแผนทางเศรษฐกิจ ไม่ค่อยซึ้งแล้ว (ซึ้งช่วงแรกๆ) ก็ขอตัดจบแต่เพียงเท่านี้