เคยเขียนเรื่อง The Useless Class ไปแล้วครั้งหนึ่งที่บล็อกเก่า ตั้งแต่ปี 2018 ตอนนั้นยังไม่เข้าใจกระจ่างนัก
พอเกิดสถานการณ์ COVID-19 บวกกับเห็นพี่โจ้ ธนา แตะถึงคำนี้ไว้ในบทความ โลกหลังโควิด เลยกลับมาอ่านเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้ง
คำว่า The Useless Class เป็นคำที่เรียกโดย Yuval Noah Harari คนเขียนเรื่อง Sapiens ที่พูดถึงอนาคตของการจ้างงาน (The Future of Unemployment) ว่าเทคโนโลยีอัตโนมัติ (automation) จะทำให้งาน low-skill jobs หายไปจากท้องตลาด แต่จะเกิดปัญหาว่า “คน” ที่เคยทำงานเหล่านี้ ไม่สามารถก้าวข้ามไปสู่งาน high-skill jobs ได้
ปรากฏการณ์นี้จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษย์ เพราะในอดีต การมาถึงของเทคโนโลยี automation ในแต่ละยุคสมัย มันทำให้งาน low-skill ประเภทเก่าๆ หายไปก็จริง แต่งานประเภทใหม่ๆ ก็เป็นงาน low-skill เช่นกัน คนเลยเปลี่ยนถ่ายงานได้ไม่ยากนัก
ตัวอย่างเช่น คนย้ายจากภาคเกษตร มาเป็นคนงานในโรงงาน มาเป็นแคชเชียร์ซูเปอร์มาร์เก็ต ได้ไม่ยากจนเกินไป แต่พอถึงยุคสมัยนี้ แคชเชียร์ที่ต้องตกงานเพราะ Amazon Go ห้างไร้พนักงาน ไม่สามารถก้าวข้ามไปเป็นโปรแกรมเมอร์ใน Amazon ได้
เราไม่รู้จริงๆ ว่า “งาน” ในอนาคตอีกสัก 10-20 ปีข้างหน้าจะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่คนจำนวนมากจะกลายเป็นคนว่างงาน เพราะก้าวข้าม skill gap ไปไม่ได้ ปัจจัยสำคัญที่สังคมต้องคำนึงคือ
- จะเลี้ยงคนกลุ่มนี้อย่างไร ซึ่งการรีดภาษีคนรวยๆ แล้วมาทำ Universal Basic Income (UBI) อาจเป็นคำตอบ
- จะให้คนกลุ่มนี้ไปทำอะไร ที่ไม่ให้ว่างจนเกินไป จนไปสร้างปัญหาอื่นๆ ให้สังคม
คำตอบของ Yuval คือ “ให้ไปเล่นเกม” (บทความใน TED) ด้วยเหตุผลว่าเกมเป็น virtual challenge ที่ทำให้คนหมกมุ่นกับอะไรบางอย่างที่สมมติ (เช่น level/rank/leaderboard ในเกม, achievement อะไรบางอย่างเช่น trophy) ไปได้นานมากๆ และมีความเป็นสังคม คือ เล่นกันเป็นหมู่คณะ ไม่ต้องเล่นคนเดียวเหงาๆ
คนเหล่านี้จะได้ไม่ว่าง (occupied) และใช้พลังไปกับสิ่งเหล่านี้ แม้ว่าจะไม่เกิด productivity ในแง่การทำงานจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ออกไปสร้างปัญหาที่ไหน เพราะใช้พลังกับเกมไปหมดแล้ว (จริงๆ เราก็อาจต้องนิยามคำว่า productivity กันใหม่ด้วย ในโลกยุคที่ productivity ล้นเกิน)
ตอนนั้นยอมรับว่ายังไม่เข้าใจเรื่องนี้กระจ่างมากนัก จนกระทั่งมาเจอ COVID ที่บีบให้คนต้องอยู่บ้าน คนชั้นกลางที่ยังไม่มีปัญหาเรื่องรายได้ มีเวลาในชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกมากหลายชั่วโมงต่อวัน จากการที่ไม่ต้องออกเดินทางไปไหน (หรืออยากออกก็ออกไม่ได้เพราะกลัว)
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ มิตรสหายจำนวนมาก มุ่งสู่ Animal Crossing!
จริงอยู่ว่าการเล่นเกมใดๆ ย่อมเข้าข่ายนิยามของ useless class ไม่ว่าจะคุณจะสวมบทเป็น Doomslayer ปราบปีศาจนรก, Cloud Strife กอบกู้อนาคตของ Midgar หรือ นายทหารคอมมานโดใน Call of Duty ก็ตาม
แต่ Animal Crossing คือตัวอย่างที่ดีที่สุดของการใช้เวลาไปเรื่อยๆ ในเกม โดยที่ไม่ต้องมีจุดหมายอะไรยิ่งใหญ่นัก (ไม่ได้กอบกู้โลกอะไร ชั้นแค่อยากมีหมู่บ้านเล็กๆ ทำโน่นทำนี่กับเพื่อน) ก็ถือเป็นภาพสะท้อนที่ดีมากของแนวคิดที่ Yuval พูดเอาไว้
ว่าแล้วก็ไปซื้อหุ้น Nintendo กันเถอะ!