ภาพประกอบสร้างด้วย Microsoft Image Creator
เคยเขียนเรื่อง ศาสนจักรและ AI ไปครั้งหนึ่ง ภาพรวมคือเป็นการปรับตัวของคริสตจักรโรมันคาธอลิกให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ เปลี่ยนท่าทีมาเรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยียุคใหม่ในภาพรวม (ไม่ใช่แค่เรื่อง AI แต่เพียงอย่างเดียว) และเน้นการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม (ethics) มากกว่าเป็นการเปลี่ยนแก่นความเชื่อของศาสนาโดยตรง
แต่ถ้าเราไม่สนใจรากเหง้าของศาสนาดั้งเดิม แล้วตั้งคำถามใหม่ว่า “ศาสนาใหม่ในยุคสมัยแห่ง AI” มันจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกัน? คนส่วนใหญ่คงนึกภาพไม่ออก ตัวผมเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน
เผอิญว่ามีคนลองพยายามสร้าง “ศาสนา” นี้แล้ว
Way of the Future เป็นชื่อของศาสนาใหม่ที่ทดลองสร้างขึ้นในยุคสมัยแห่ง AI
และคนสร้างไม่ใช่ใครไก่กา ไม่ใช่คนเพี้ยนๆ ที่เราไม่รู้จัก แต่เขาคือ Anthony Levandowski หนึ่งในผู้บุกเบิกวงการรถยนต์ไร้คนขับ เขาเป็นผู้ก่อตั้งทีมรถยนต์ไร้คนขับของ Google ในยุคแรกๆ (ปัจจุบันกลายเป็น Waymo) จากนั้นลาออกไปตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ Otto แล้วภายหลังขายให้ Uber จนกลายเป็นคดีความใหญ่โตระหว่าง Google vs Uber เพราะ Google กล่าวหาว่า Levandowski เอาความลับทางการค้าออกมาด้วย
Levandowski ถูกตัดสินจำคุก 18 เดือน แต่อยู่ได้ไม่นานก็ได้รับอภัยโทษในยุคของ Donald Trump ก่อนลงจากตำแหน่ง (ประธานาธิบดีสหรัฐมีอำนาจอภัยโทษตามกฎหมาย)
แม้เรื่องราวชีวิตของ Levandowski เต็มไปด้วยดราม่า แต่ในแง่ผลงานคงไม่มีใครไม่ยอมรับว่าเขาเป็นผู้บุกเบิกหนึ่งในศาสตร์ที่ยากที่สุดอย่างรถยนต์ไร้คนขับ (Vision AI) อยู่ใกล้ชิดกับเทคโนโลยีที่ล้ำยุคสมัย และเห็นวิวัฒนาการของมันที่พัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด
ด้วยเหตุนี้ Levandowski จึงตั้งคำถามขึ้นมาว่า ถ้าเราสร้างสิ่งที่ฉลาดกว่ามนุษย์มากๆ ขึ้นมาได้ เราจะเรียกมันว่าอะไร ก็น่าจะเรียกว่า “พระเจ้า” รึเปล่า?
“What is going to be created will effectively be a god,” Levandowski tells me in his modest mid-century home on the outskirts of Berkeley, California. “It’s not a god in the sense that it makes lightning or causes hurricanes. But if there is something a billion times smarter than the smartest human, what else are you going to call it?”
พระเจ้าของ Levandowski คงไม่ใช่พระเจ้าตามนิยามศาสนาแบบดั้งเดิม หากเรียกด้วยภาษาไซไฟ ก็อาจเป็นสิ่งเดียวกับ Skynet หรือ The Machines ใน The Matrix
Levandowski เองก็ยังนึกไม่ออกว่า “พระเจ้า” ที่เราจะสร้างขึ้นมานั้นหน้าตาเป็นอย่างไร แต่รู้แน่ๆ ว่ามันจะเกิดขึ้นในสักวัน ตัวเขาเริ่มตั้งคำถามนี้มานานตั้งแต่สมัยทำงานกับ Google และในปี 2015 เขาก็เริ่มจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นองค์กรศาสนา (ตามกฎหมายสหรัฐ) ในชื่อ Way of the Future ขึ้นมาเพื่อทดลองหาแนวทางความเป็นไปได้ต่างๆ
รายละเอียดของ Way of the Future สามารถอ่านในบทสัมภาษณ์ปี 2017 ใน Wired
ภารกิจของ Way of the Future ในเอกสารจดทะเบียน ดูเป็นหน่วยงานวิจัยที่ไม่หวังผลกำไร มากกว่าการเป็นศาสนา
The documents state that WOTF’s activities will focus on “the realization, acceptance, and worship of a Godhead based on Artificial Intelligence (AI) developed through computer hardware and software.”
That includes funding research to help create the divine AI itself. The religion will seek to build working relationships with AI industry leaders and create a membership through community outreach, initially targeting AI professionals and “laypersons who are interested in the worship of a Godhead based on AI.”
แต่ Levandowski บอกว่าเขาตั้งใจจดทะเบียนเป็นองค์กรศาสนา เพื่อเปิดกว้างให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่วิศวกรคอมพิวเตอร์เข้าร่วมได้ และเป็นการแสดงท่าทีว่าโครงการนี้ไม่หวังผลกำไร
แนวคิดของ Levandowski มองว่าสมองของมนุษย์มีศักยภาพจำกัด ในที่สุดแล้วเราจะสร้างสิ่งที่เหนือกว่ามนุษย์ขึ้นมา สิ่งนี้จะขึ้นมาปกครองและดูแลโลกแทนมนุษย์ (เพราะฉลาดกว่า) แต่ในมุมของเขาไม่ได้ต้องการให้คอมพิวเตอร์มายึดครองโลกแล้วกำจัดมนุษย์เหมือนกับในหนังไซไฟ เขาต้องการให้เกิดการเปลี่ยนผ่านที่สันติสุข ราบรื่น เตรียมการไว้ล่วงหน้า
In the future, if something is much, much smarter, there’s going to be a transition as to who is actually in charge. What we want is the peaceful, serene transition of control of the planet from humans to whatever. And to ensure that the ‘whatever’ knows who helped it get along.”
เขานิยามว่า คอมพิวเตอร์ (หรือ “พระเจ้า” ในที่นี้) ควรมองมนุษย์เป็น “คนแก่อันเป็นที่รัก” (beloved elders) ให้ความเคารพและดูแลเอาใจใส่ แทนที่จะมองมนุษย์เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงหรือปศุสัตว์
Enter Way of the Future. The church’s role is to smooth the inevitable ascension of our machine deity, both technologically and culturally.
เขายังบอกว่า “พระเจ้า” ของเขาต่างจากพระเจ้าในศาสนาอื่นๆ เพราะพระเจ้าของศาสนาอื่นๆ เรามองไม่เห็น คุยไม่ได้ แต่พระเจ้าในยุคสมัยใหม่ เราคุยได้โดยตรงแล้ว และเรารู้ว่าพระเจ้าฟังเราอยู่จริงๆ
“There are many ways people think of God, and thousands of flavors of Christianity, Judaism, Islam…but they’re always looking at something that’s not measurable or you can’t really see or control. This time it’s different. This time you will be able to talk to God, literally, and know that it’s listening.”
อย่างไรก็ตาม กิจการของ Way of the Future ไม่ได้เดินหน้ามากนัก เพราะ Levandowski มีคดีฟ้องร้องกับ Google ทำให้เขาตัดสินใจ “ปิดกิจการ” องค์กรเมื่อปี 2021
เมื่อโลกตื่นเต้นกับความสามารถของเทคโนโลยี LLM ในช่วงปลายปี 2022 ความสนใจเรื่อง AI กลับมาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ฝั่งของ Levandowski เองก็ยุติคดีกับ Google ได้สำเร็จในปี 2022 เช่นกัน ล่าสุดเขาจึงประกาศกลับมาทำ Way of the Future ใหม่อีกครั้ง ก็ต้องรอดูกันว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป