in Business

The Era of Empathy

ภาพประกอบ cottonbro / pexels

อ่านบทความใน Financial Times พูดถึง “คาแรกเตอร์” ของผู้นำในยุคสมัยใหม่ที่ต้องเปลี่ยนไปจากเดิม

วิถีแห่งผู้นำช่วงต้นศตวรรษที่ 21 (ปี 2000 เป็นต้นมา) เน้นไปที่การผลิตและการขาย ภารกิจหลักคือ “จัดการกับแรงงานที่ผลงานไม่ดี” และเป้าหมายหลักคือ ผลประกอบการระยะสั้นรายไตรมาส

The typical chief executive of the early 21st century concentrated on the manufacture of reliable products and the sale of dependable services. Their aim was to hit short-term financial targets in the interests of their companies’ owners. Leadership was about “managing badly performing robots”

แต่วิถีผู้นำยุคใหม่เปลี่ยนไปแล้ว ผู้นำภาคธุรกิจยุคหลังโรคระบาด ต้องมี soft skills ที่ดีขึ้นมาก สูตรแบบจำง่ายๆ คือ 3C = compassion, communication, and collaboration ในขณะที่ C ตัวเดิมคือ competence ก็ทำได้ยากขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก

Rita Gunther McGrath อาจารย์จาก Columbia Business School ใช้คำเปรียบเทียบว่า

From this era of execution, via the era of knowledge management, McGrath suggests leaders have now entered “the era of empathy”.

นอกจากนี้ ของใหม่ที่ผู้นำรุ่นใหม่ต้องเจอคือ การถูกกดดันและคาดหวังให้แสดงออกจุดยืนทางการเมือง สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม สิทธิมนุษยชน ฯลฯ เพราะคนทำงานรุ่นใหม่ต้องการเรื่องนี้มากกว่าเดิม ดังที่เราเห็นได้จากการประท้วงของพนักงาน corporate หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในบริษัทไฮเทคทั้งหลาย

สิ่งที่ผู้นำยุคใหม่ต้องกระทำ จึงมี 3 อย่างคือ

  1. รักษาสมดุลระหว่างเป้าหมายทางการเงินระยะสั้น กับ
  2. ยุทธศาสตร์ของบริษัทในระยะยาว 5-10 ปี (ซึ่งผู้นำยุคก่อนไม่ค่อยคิดกัน)
  3. ดูแลลูกน้องของเราให้ดี

leaders who can balance the short-term financial health of the business, its long-term strategic demands, and the needs of the people it serves.

ต้นแบบของผู้นำรุ่นใหม่ที่เป็น role model ก็อย่างเช่น Satya Nadella ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน หรือ Oprah Winfrey ที่เด่นเรื่องความจริงใจไม่เสแสร้ง (authenticity – อ่านที่ Oprah เขียนไว้เอง)

บทความของ FT ยกตัวอย่างกรณีของ Elon Musk ว่าอาจเป็นเคสยกเว้นในแง่ความถ่อมตน แต่เราควรมอง Musk เป็นตัวอย่างในเรื่องอื่นแทน เช่น การกล้าทดลองของใหม่ๆ การไม่กลัวความไม่แน่นอน และการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเพื่อให้ทีมงานมีแรงบันดาลใจร่วมกัน ส่วนข้อเสียอื่นๆ ของ Musk เช่น การทำงานแบบ micromanagement จัดๆ ก็อาจเป็นความสามารถเฉพาะบุคคล

บทความอื่นที่เกี่ยวข้องที่เคยเขียนไว้ Empathy และ Order & Empower