เรื่องมีอยู่ว่า ซื้อหนังสือประวัติศาสตร์เม็กซิโกมาอ่าน แล้วอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะไม่รู้บริบททางประวัติศาสตร์สเปน เจ้าอาณานิคมในตอนนั้น เลยดองเอาไว้ยาวนาน
มีมิตรสหายแนะนำเล่มนี้มา “สเปน จักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน” ของสำนักพิมพ์ยิปซี เขียนโดย อ. นุชธิดา ราศีวิสุทธิ์ จากคณะศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ซึ่งพี่โหน่งบอกว่าเป็นผู้นำแห่ง Iberian Studies ในประเทศไทย
หนังสือหนาเลย 430 หน้า ทยอยอ่านมาเรื่อยๆ จนจบ เลยอยากมาเขียนรีวิวสักหน่อยว่า ดีมาก ละเอียดมาก
หนังสือเล่มนี้จับความยุคทองของสเปน (Spanish Golden Age หรือ Siglo de Oro) ช่วงปี 1474-1598 ผ่านกษัตริย์ 3 รัชกาล ได้แก่
- Isabella I of Castile และ Ferdinand II of Aragon ที่แต่งงานกัน แล้วรวมชาติสเปน คาสติลกับอารากอนเข้าด้วยกัน ขับไล่อาณาจักรมัวร์ทางใต้ และค้นพบโลกใหม่ อเมริกา
- Charles I ผู้รวมยุโรปเข้าด้วยกันจากเครือญาติฝั่งปู่-ย่า-ตา-ยาย ครองทั้งสเปน เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และบางแคว้นของฝรั่งเศส-อิตาลี
- Philip II เจ้าของชื่อที่นำไปตั้งเป็นประเทศฟิลิปปินส์ กษัตริย์นักบริหารที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของสเปนยุคทอง คู่แค้นของ Elizabeth I แห่งอังกฤษ และจุดเริ่มต้นของ “ขาลง” ของสเปน
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือการวิเคราะห์อย่างละเอียด ทั้งปัจจัยเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา สังคม ของสเปน ว่าขึ้นสู่ยุคทองและร่วงหล่นจากยุคทองอย่างรวดเร็วได้อย่างไร ทำไมมหาอำนาจระดับสเปนที่ครองดินแดนทั่วโลก มีความมั่งคั่งจากเหมืองในอเมริกาใต้มหาศาล ถึงเสื่อมอิทธิพลลงอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นประเทศอื่นในยุโรปขึ้นมาเรืองอำนาจแทน
คำตอบคือ อาณาจักรสเปนขยายตัวเร็วเกินไป เริ่มต้นจากการรวมอาณาจักรย่อยๆ บนคาบสมุทรไอบีเรีย ทะยานขึ้นสู่มหาอำนาจที่มีดินแดนทั้งในยุโรป (เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อิตาลี) และดินแดนในโลกใหม่ (อเมริกา ฟิลิปปินส์) ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ในอีกทางก็ต้องเผชิญกับสงครามกับมหาอำนาจอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกัน ทั้งกับฝรั่งเศส (เพื่อนสนิท) ออตโตมัน และปัญหาสงครามในเนเธอร์แลนด์ที่กลายเป็นหล่มฉุดสเปนให้ลงเหวด้วย
หนังสือเล่มนี้อาจไม่ได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์สเปนจนจบ เพราะจับความแค่ 3 รัชสมัย แต่อ่านจบแล้วเข้าใจประวัติศาสตร์สเปนเพิ่มขึ้นอีกมาก และเตรียมตัวกลับไปอ่านเล่มเม็กซิโกต่อ