ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้มาสักพักแล้ว ช่วง 1-2 วันนี้มีบทความที่เอ่ยถึงประเด็นเดียวกันออกมาพอดี ขอรวบเป็นโพสต์เดียวเลยแล้วกัน
[1]
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีบล็อกอันนึงดังในแวดวงไอทีฝรั่งคือ New Junior Developers Can’t Actually Code
เล่าว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ๆ เขียนโค้ดเองไม่เป็นแล้ว เพราะมีเครื่องมือแบบ Copilot, Claude หรือ GPT คอยช่วยตลอดเวลา โค้ดสามารถรันได้ แต่เจ้าตัวไม่เข้าใจว่าโค้ดรันได้ยังไง
วัฒนธรรมการเข้าไปศึกษาการทำงานของซอฟต์แวร์ให้รู้จนปรุ (อย่างการไปตามอ่านคนเถียงกันใน StackOverflow) มันเริ่มหายไป
[2]
มีโอกาสไปนั่งคุยกับบริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่งที่รู้จักกัน เขามีนโยบายเรื่อง AI ช่วยเขียนโค้ดคือ “อยากใช้อะไร เต็มที่ พี่ซื้อให้” หลังจากทดลองใช้เครื่องมือพวก Cursor.ai มาหลายเดือน
สิ่งที่พบคือโปรแกรมเมอร์เทพๆ ทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นมาก จากปกติใช้เวลา 2-3 วัน ลดลงมาเหลือไม่กี่ชั่วโมง เหตุผลเป็นเพราะโปรแกรมเมอร์อาวุโสเหล่านี้มีภาพในหัวอยู่แล้วว่าจะทำอะไรอย่างไร การมี AI ช่วยโค้ดเข้ามา เหมือนมีเวทย์มนตร์ที่ “เสก” งานให้เป็นจริงได้เร็วขึ้น
แต่ในด้านตรงข้าม เมื่อน้องๆ จูเนียร์ใช้เครื่องมือเหล่านี้ ได้โค้ดที่รันได้ออกมา เขาเกิดอาการ “ไม่มั่นใจ” ว่าที่ทำมามันถูกหรือไม่ เครื่องมือ AI ช่วยงานเทคนิคได้ แต่ไม่สามารถทดแทน “พี่คนนั้นบอกว่าถูกแล้ว” การเป็นที่พึ่งทางใจที่มีซีเนียร์คอยซัพพอร์ตได้
[3]
เจอโพสต์ของคุณ Lakshya Jain ที่บอกว่าตัวเองสอนวิชา Database ที่ Berkeley มา 10 เทอมแล้ว สิ่งที่เขาพบในเทอมล่าสุดคือ นักศึกษา active น้อยลง ไม่มีการโพสต์ถามในเว็บบอร์ดของคลาส คนที่มาขอคำปรึกษาใน office hours มีน้อยลงมาก และผลการสอบออกมาว่า คะแนนเฉลี่ยต่ำสุดตั้งแต่เขาเคยสอนมา
สาเหตุคงเดาได้ไม่ยาก ว่าเป็นเพราะนักศึกษาใช้ ChatGPT ช่วยทำการบ้านกันหมด
I'm teaching databases this semester at Berkeley. My students all seem unusually brilliant. Not many go to office hours, and not too many folks post on the course forum asking project questions.
Weirdly, the exam had the lowest recorded average in my 10 semesters teaching it.
— Lakshya Jain (@lxeagle17) March 13, 2025
[4]
บทความล่าสุดใน Financial Times เมื่อวานนี้ นำสถิติด้านการเรียน คะแนนสอบเฉลี่ยในประเทศร่ำรวยทั้งหลาย มาย้อนดูแล้วพบว่าคนในประเทศเหล่านี้ “โง่ลง” ในสาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน
จุดตัดที่คะแนนเริ่มตกลงอยู่ในช่วงกลางๆ ทศวรรษ 2010s ซึ่งสอบถามเพื่อนอาจารย์มหาวิทยาลัย ทั้งในไทยและต่างประเทศว่าจริงไหม ก็ได้รับคำตอบว่า จริง
NEW : Is human intelligence starting to decline?
Recent results from major international tests show that the average person’s capacity to process information, use reasoning and solve novel problems has been falling since around the mid 2010s.
What should we make of this? pic.twitter.com/WyZoNEcTd3
— John Burn-Murdoch (@jburnmurdoch) March 14, 2025
[5]
มิตรสหายอาจารย์ท่านหนึ่งส่งภาพการสอบมาให้ดูเมื่อเช้านี้ เป็นการสอบแบบ open book ที่ให้ใช้คอมได้ แต่ไม่ต่อเน็ต และเขียนคำตอบลงกระดาษ มันอาจจะเป็นทางออกของการเรียนการสอนในยุคนี้
นึกถึงสมัยที่ตัวเองเรียนวิชา compiler สมัยปริญญาตรี อาจารย์ให้ทำทุกอย่างลงกระดาษ ให้สมองเราเป็น compiler อาจารย์ให้ input มา แล้วเราเขียน output ลงกระดาษ ตอนสอบรู้สึกยากเย็นมาก แต่ตอนนี้ก็ต้องขอบคุณอาจารย์ที่บีบให้เราต้องคิดและแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
การเรียนการสอนในยุค AI ครองโลก อาจต้องกลับไปเหมือนสำนักกำลังภายในที่เราเห็นในหนังหรือการ์ตูน เริ่มมาปีแรก ฝึกฟันดาบใส่อากาศไปหมื่นครั้ง เอาทักษะให้แน่นก่อน โดยที่ห้ามมีตัวช่วยเลย