in Football

Fergie, Klopp, Pochettino

ภาพประกอบจาก Twitter @LFC

เนื่องในโอกาส Liverpool เอาชนะ Manchester United ในศึกแดงเดือดไป 2:0 บวกกับสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อ่านบทความนี้พอดี เลยอยากเขียนถึงไว้เป็นที่ระลึก

Miguel Delaney เป็นนักเขียนเรื่องฟุตบอลของหนังสือพิมพ์ The Independent ที่ผมตามอยู่ในทวิตเตอร์ และอ่านบทความของเขาเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาส (ซึ่งเขาเขียนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยได้ดี)

บทความนี้โฟกัสที่แมนยูฯ เป็นหลัก โดยพูดถึงเหตุการณ์ช่วงสิ้นฤดูกาล 2015-2016 ที่แมนยูตัดสินใจปลดหลุยส์ ฟานกัล ก่อนจะตั้งโจเซ่ มูริญโญ่ มารับตำแหน่งแทน

ตัวละครสำคัญในฉากนี้คือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งในแง่ฝีมือและบารมีคงไม่มีข้อกังขาใดๆ อีกต่อไปแล้ว

เซอร์พูดถึงคล็อป ที่เพิ่งมาลิเวอร์พูลก่อนหน้านั้นไม่นาน (เริ่มต้นฤดูกาล 2015-2016) ในทางบวกกว่า

“He’s revived Liverpool’s enthusiasm,” the great Scot told Kicker. “He’s a strong personality. That’s absolutely vital at a big club. I’m worried about him because the one thing United don’t want is Liverpool to get above us.”

Delaney บอกว่าเซอร์นั้น “มีสัญชาตญาณ” (ต้นฉบับใช้คำว่า instinct) ที่เซนส์ได้ว่าคล็อปจะนำลิเวอร์พูลไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้

มาถึงตอนนี้คงไม่มีข้อกังขาแล้วเช่นกันว่า คล็อปประสบความสำเร็จจริงๆ (จากการเข้าชิง UCL สองรอบ, ชนะ 1 และกำลังจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก) รวมถึงว่าเขายังน่าจะพาลิเวอร์พูลชุดนี้ประสบความสำเร็จต่อไปอีกสักพักใหญ่ๆ เท่าที่อนาคตพอมองเห็นถึง

จากนั้นไม่นาน ช่วงต้นปี 2016 เซอร์ได้ไปกินข้าวกับ Mauricio Pochettino ซึ่งในตอนนั้นยังค่อนข้างโนเนมอยู่ประมาณหนึ่ง (มาคุมสเปอร์สในฤดูกาล 2014-2015) และเซอร์ก็ชมโปเชตติโนเช่นกันว่า

Ferguson was willing to tell anyone who’d listen at the time that the Argentine was the best manager in the country.

บทความนี้เสนอว่าตอนนั้น แมนยูฯ ปลดฟานกัล และมีโอกาสตั้งโปเชตติโนแทน แต่สุดท้ายก็ไปเลือกมูริญโญ่แทน เพราะมีชื่อเสียงชื่อชั้นดีกว่า (ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ) พอเวลาผ่านมาอีกไม่กี่ปี โปเชตติโนก็เปล่งประกายออกมาอย่างชัดเจน ในขณะที่แมนยูยัง “ติดหล่ม” อันเดิมอยู่

แน่นอนว่าคำถามพวกนี้มันเป็นเรื่อง “what if” ถามในสิ่งที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้น ก็คงไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าตอนนั้นเลือกโปเชตติโนแล้วจะเวิร์คจริงไหม และเซอร์เองก็มีโอกาสผิดได้ (เช่น การเลือกเดวิด มอยส์ มาสืบทอดตำแหน่งและก็ล้มเหลว)

แต่อย่างที่เคยเขียนเอาไว้ว่า พรีเมียร์ลีกกำลังอยู่ในช่วงผลัดใบสู่ผู้จัดการทีมรุ่นหนุ่ม ทีมใหญ่ๆ อย่างแมนยู เชลซี อาร์เซนอล กำลังสร้างทีมขึ้นมาใหม่ด้วยผู้จัดการรุ่นใหม่ ที่ต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งในการสั่งสมพลังและประสบการณ์

พรีเมียร์ลีกในอนาคตอันใกล้นี้จึงจะเป็นสภาพ rivalry ระหว่างลิเวอร์พูลกับแมนซิตี้ ที่ใช้ผู้จัดการทีมรุ่นกลางๆ (ทั้งในแง่อายุและความสำเร็จ) อย่างคล็อป (ปัจจุบันอายุ 52) หรือ เป๊ป (ปัจจุบันอายุ 48)

น่าจับตาดูก้าวต่อไปของโปเชตติโน่ (ปัจจุบันอายุ 47) ว่าจะไปทางไหนต่อ จะอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไป (ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะมาคุมแมนยูแทนโซลชา) หรือย้ายไปอยู่ลีกอื่น ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน