สถานการณ์ของฟุตบอลอังกฤษ นับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2017-2018 เป็นต้นมา (และเริ่มมาเด่นชัดในฤดูกาล 2018-2019) เกิดสภาวะ rivalry ระหว่างสองทีมหัวตารางคือ แมนซิตี้และลิเวอร์พูล ที่น่าจะคงอยู่ไปอีกสักพักในอนาคต
- Jurgen Klopp มาถึงลิเวอร์พูลปี 2015 เริ่มสร้างทีมขึ้นมาใหม่ สามารถพาทีมเข้าชิง UCL ได้ 2 ครั้งติดต่อกัน ชนะมา 1 ครั้ง และกำลังจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก
- Pep Guardiola มาถึงแมนซิตี้ในปี 2016 ปีแรกอาจยังไม่เห็นผล แต่ปีถัดมา คว้าแชมป์แบบสบายๆ 100 แต้ม และยังสามารถเบียดลิเวอร์พูลมาคว้าแชมป์ต่อได้อีกปี (แม้ยังไม่ได้ UCL)
กรณีของ Pep อาจแตกต่างไปจาก Klopp นิดหน่อย เพราะเขาไม่ได้สร้างทีมขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แต่รับช่วงต่อทีมจากยุคก่อนหน้า (Manuel Pellegrini) และมา “ปรับจูน” เพิ่มเติมจนเข้าที่ จนกลายเป็นทีมที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 ปีติดต่อกัน (ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นเลย นับจากแมนยูปี 2006-2009) เคยเขียนถึงเรื่องนี้ไว้
อย่างไรก็ตาม สภาพการณ์ของแมนซิตี้ในฤดูกาล 2019-2020 ที่แพ้บ่อยครั้ง เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าทีมชุดปัจจุบันของ Pep เริ่มประสบปัญหา สูงวัย/อิ่มตัว กันแล้ว
คนที่รู้เรื่องนี้ดีกว่าใครก็คือ Pep นั่นแหละ และเพิ่งได้อ่านบทความเรื่องนี้ใน The Sun พอดี
![The Sun](https://www.thesun.co.uk/wp-content/uploads/2016/04/icon-e1459786005667.png?strip=all&w=32)
Pep จำเป็นต้องสร้างทีมรุ่นใหม่ขึ้นมา อันนี้ใครก็รู้ แต่ในทางปฏิบัติมันก็ไม่ง่ายที่จะหาคนมาแทนกุน (31), เดวิด ซิลบา (34), เฟอร์นันดิญโญ่ (34) ได้
นี่ยังไม่รวมถึงดาราบางคนที่อาจอายุไม่เยอะมาก แต่อิ่มตัวกับความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว เช่น กุนโดกัน (29) หรือ มาห์เรซ (28)
จริงๆ ปัญหานี้ก็ไม่ได้เกิดกับแมนซิตี้เพียงทีมเดียว ยอดทีมสเปนทั้งบาร์เซโลนา หรือ รีลมาดริด ก็กำลังเจอปัญหาคล้ายๆ แบบนี้อยู่เช่นกัน