in Politics

ใครเชียร์ลุง

เครดิตภาพบอร์ดลุงตู่โดย @norainu_mode 

เมื่อวานนี้ 12 มกราคม 2563 เป็นอีกวันหนึ่งของแวดวงการเมืองไทย เพราะมีการจัดกิจกรรม #วิ่งไล่ลุง ชนกับ #เดินเชียร์ลุง แยกคนละพื้นที่

รายละเอียดอิงจากรายงานของ BBC ก็แล้วกัน ไม่ขอเขียนถึงซ้ำ

ส่วนตัวสนับสนุนกิจกรรม #วิ่งไล่ลุง อยู่แล้ว แต่คิดว่า #เดินเชียร์ลุง มีความน่าสนใจกว่ามาก เหตุเพราะเป็นกลุ่มคนที่เราเข้าไม่ถึงจริงๆ แต่ก็มีตัวตนอยู่ (มาก) ในสังคมไทย

เนื่องจากไม่ได้เข้าร่วมทั้งสองงาน (ตื่นมาก็ 8 โมง ตลาดวายหมดแล้ว 😂) จึงต้องติดตามข่าวจากโซเชียลเพียงอย่างเดียว

เท่าที่เช็คกับน้องที่รู้จักกัน และไปเข้าร่วมงาน #เดินเชียร์ลุง เพราะความอยากรู้ ก็ได้ข้อมูลมาคล้ายๆ กันว่า มีแต่คนแก่ หรือถ้ามีเด็กด้วยก็คือมากับพ่อแม่ผู้ปกครอง

ผมเชื่อว่าคนที่มา #เดินเชียร์ลุง มาด้วยใจจริงๆ ไม่ได้จ้างมา ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยยังแบ่งเป็น 2 ขั้ว ideology ไม่ได้หายไปไหน (และเป็นปัญหาร่วมของทั้งโลก)

คำถามที่น่าถามต่อคือ วิธีคิดของกลุ่มคน #คนเชียร์ลุง ที่สะท้อน demographic ของคนที่ค่อนข้างมีอายุ (จะเรียกว่าเป็นรุ่น baby boomer ก็คงไม่ผิดนัก) คืออะไรกันแน่ เลยลองนั่งหาดูคลิปหรือท่าทีของคนที่ไปร่วมงาน ซึ่งโชคดีกว่ามีคุณ @CholtanutkunT ถ่ายไว้ค่อนข้างละเอียด

เริ่มจากรูปเหยียบป้ายที่โด่งดังในโซเชียล

แต่เหยียบเฉยๆ เป็นการแสดงออกถึงผลลัพธ์ ไม่รู้สาเหตุ ต้องดูบทสัมภาษณ์ ที่มองว่าคนรุ่นใหม่ “โดนปลุกระดมมา” + มองว่าฝ่ายตรงข้ามโดนจ้างมา

จากบทสัมภาษณ์นี้มองว่า เศรษฐกิจไทยดีอยู่แล้ว ข่าวเศรษฐกิจแย่เป็นเรื่องบิดเบือน + มีเสื้อ “ประเทศกูดี” ใส่ติดเข้ามาในเฟรมด้วย

คลิปอีกอันที่ดังคือ การร้องเพลง “เรารักเนชั่น” ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก (เทียบได้กับคนสนับสนุน Fox News ซึ่งก็มีเป็นจำนวนมาก)

หรือการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี อย่างตั้งใจ

แต่ระหว่างการค้นหาคำตอบเรื่องวิธีคิดของคน demographic นี้ มาเจอบทความของใบตองแห้งอันนี้พอดี ก็คิดว่าตอบคำถามหรือข้อสงสัยไว้ครบครัน

แบบสรุป

  • ไม่มีใครรักประยุทธ์จริง แต่รักระบอบที่ประยุทธ์เป็นตัวแทนอยู่ และไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าประยุทธ์แล้ว (จำใจต้องรัก)
  • ระบอบนี้คือ ระบอบจำลองที่ตกทอดมาจากยุคป๋าเปรม หรือ อานันท์ ที่เน้นคนดีมีศีลธรรม (ethics) และความสงบเรียบร้อยของสังคม (order)
  • กลุ่มคน Baby Boomer เติบโตและคุ้นเคยกับระบอบนี้ เลยยังฝันถึง Good Old Days (ซึ่งเป็นปกติของ conservative) และหวังว่าจะมีระบอบแบบนี้กลับมาอีก
  • แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ ผิดหวังกับรัฐบาลประยุทธ์ แต่กลัวสูญเสียระบอบที่ว่าไป (เกิดภาวะสังคมไร้ order) มากกว่านั้น จึงต้องออกมาแสดงตัวเพื่อทำลายระบอบใหม่ไปก่อน
  • นอกจากเรื่องอุดมคติแล้ว ยังมีเรื่อง order เชิงอำนาจและผลประโยชน์จริงๆ เช่น การเกณฑ์ทหาร ผลประโยชน์ของศาล หรือ ข้าราชการ แบบดั้งเดิม ที่ผูกกับระบอบประยุทธ์อยู่

แน่นอนว่าระบอบการปกครองแบบเดิม มันไปไม่รอดแล้วในยุคปัจจุบันที่โลกเปลี่ยนไปจากเดิมมาก แม้แต่คนที่อยู่ในระบอบเดิม (ที่มีความคิด) ก็ทราบเรื่องนี้ดี คิดว่าภาพนี้อธิบายทุกอย่าง

อีกสิ่งที่น่าค้นหาคำตอบต่อไปคือ เราสามารถ reconcile คนกลุ่มเดิม กับระบอบแบบใหม่ (ประชาธิปไตยเสรีนิยมแบบสากล) ได้หรือไม่ หรือมันก้าวข้าม point of no return ไปนานแล้ว

ข่าวหนึ่งที่ผมติดใจและคาใจมากคือ ข่าวอาม่าตบเด็ก และเด็กตบกลับ ซึ่งเป็นการปะทะกันของ Boomer กับ Gen Z (ที่ต่างจาก Gen X/Y ตรงที่ไม่ยอมทนอีกต่อไปแล้ว) เคสอาม่ากับเด็กเป็นปัญหาเชิงปัจเจก คือทะเลาะกันเป็นส่วนตัว

แต่ถ้ามันเลยการเป็นปัญหาส่วนตัว กลายเป็นความขัดแย้งระหว่าง generation ไปในภาพใหญ่ เราอาจจะเห็นปรากฏการณ์ Gen Z ไล่ล่าแม่มด ไล่ตบ Boomer ก็เป็นได้

ฝันร้ายในยุค Robespierre เป็นตัวอย่างที่ไม่มีใครอยากให้เกิดซ้ำ เราจะเปลี่ยนผ่านสังคมไทยอย่างไรกันดี