ทำไมคนถึงไม่ดูหนังในโรง

ภาพจาก Odean

ส่วนตัวเลิกดูหนังในโรงหนังมานานแล้ว ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น มีรอบฉายไม่ตรงกับเวลาที่สะดวก, เดินทางยาก หาที่จอดรถยาก, หยุดพักไปฉี่ไม่ได้, ค่าตั๋ว+ค่ากินนั้นแพงขึ้นเรื่อยๆ ฯลฯ แต่ก็มีเพื่อนที่ยังชื่นชอบบรรยากาศในโรงหนังอยู่ (ซึ่งเถียงกันตลอดเวลา 555) ประเด็นนี้คงเถียงกันไม่จบเพราะความชอบ ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนต่างกัน

เมื่อเจอกับผลการสำรวจของบริษัท HarrisX ที่มีรายละเอียดจริงจัง จึงว้าวมากเพราะอยากรู้ว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไรกันบ้างในเรื่องนี้ ถึงแม้เป็นผลสำรวจของสหรัฐอเมริกา และกลุ่มตัวอย่างไม่ได้เยอะนัก (ประมาณ 1,000 คน) แต่ก็พอเห็นภาพว่าปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้คนเข้าโรงหนัง กับคนเลือกไม่เข้าโรงหนัง มีอะไรบ้าง

ผลสำรวจนี้ค่อนข้างชัดเจนว่า เสียงส่วนใหญ่ (2/3) เลือกรอดูหนังผ่านสตรีมมิ่งแทน ขณะที่ 1/3 ยังเลือกดูหนังในโรงอยู่ อันนี้คงสะท้อนว่าคนส่วนใหญ่เลือกความสะดวกเป็นหลัก แม้ว่าเราจะเห็น “เสียง” ของคนเข้าโรงหนังอยู่เยอะกว่าสัดส่วนจริงๆ ในทางสถิติก็ตาม (เข้าแนวว่า คนไม่เข้าโรงไม่ค่อยพูดไม่ค่อยโพสต์ ส่วนคนเข้าโรงเลือกจะส่งเสียงของตัวเองมาเยอะหน่อย ซึ่งก็เข้าใจได้ในแง่จิตวิทยา)

กลุ่มคนเข้าโรงหนัง เป็นเพราะ

• the experience of watching a movie on the big screen: 59%
• the quality of surround-sound systems: 47%
• escaping from distractions at home: 39%
• theater recliners: 37%
• refreshments: 32%
• the movie is exclusively shown in theaters: 30%
• advanced viewing technologies such as 3D, IMAX, etc.: 30%
• The experience of watching a movie with an audience: 26%
• To watch a movie premiere or special screening: 25%
• Nostalgia: 24%

กลุ่มคนไม่เข้าโรงหนัง เป็นเพราะ

• the cost of movie tickets: 53%
• the cost of concessions: 42%
• the comfort of viewing at home versus in a theater: 40%
• uninterested: 24%
• Concerns over sanitation and hygiene 23%
• inability to pause the movie or take a break: 22%
• Distractions from other members of the audience: 19%
• Inconvenient travel (travel time to theater, traffic, parking, etc.): 15%
• Selection of films showing: 13%
• Inconvenient theater locations: 13%
• Limited availability of or inconvenient show times: 11%
• Seat selection: 8%

พอได้อ่านแล้วก็พบว่า เราแทบไม่สนใจประโยชน์ด้านบวกจากโรงหนังมากเท่าไรนัก เช่น จอใหญ่ ระบบเสียง IMAX บวกไม่อยากมีประสบการณ์ดูหนังร่วมกับใครคนอื่นที่ไม่รู้จัก ไม่ได้ต้องการบรรยากาศพิเศษอะไร ฯลฯ

ในทางตรงข้าม เราค่อนข้างซีเรียสมากกับประสบการณ์ดูหนังที่บ้าน เช่น การเดินทาง ความสามารถในการหยุดพักได้ ฯลฯ ยิ่งพอแก่แล้วไม่ได้สนใจว่าต้องดูหนังตามกระแสไว้คุยกับเพื่อนใดๆ ดูช้าไป 5-10 ปีก็ไม่มีปัญหาอันใด

ได้ข้อสรุปว่าดูหนังอยู่บ้านไปนั่นแหละถูกต้องแล้ว