in Business

The Bezos World

ข่าวใหญ่ของวงการไอทีรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ Jeff Bezos ลงจากตำแหน่ง (สักที) โดยคนที่มาแทนคือ Andy Jassy ซีอีโอของ AWS ซึ่งไม่พลิกโผมากนัก

ก่อนหน้านี้ Bezos มีมือขวาอยู่ 2 คนคือ Jeff Wilke (“Another Jeff”) ที่ดูแลฝั่งอีคอมเมิร์ซ และ Andy Jassy ที่ดูแลฝั่ง AWS แต่ Wilke เพิ่งเกษียณไปก่อนหน้านี้ไม่นาน (และน่าจะวางแผนถอยฉากพร้อม Bezos) ทำให้ Jassy กลายเป็นตัวเลือกเดียวที่เด่นชัด

ส่วนเรื่องของ Andy Jassy ซีอีโอคนใหม่ที่มารับช่วงอาณาจักรของ Amazon ทางทีมงานทั้ง Brand Inside และ Blognone เขียนสรุปไว้แล้ว

เส้นทางชีวิตของ Jassy ยังไงก็ต้องไปต่อ แต่ถ้ามองย้อนกลับไป เส้นทางของ Bezos ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน การวิเคราะห์เรื่องนี้คงไม่มีใครคมเท่ากับ Ben Thompson แห่ง Stratechery (ที่จริงๆ พี่แกก็คมทุกเรื่อง)

ส่วนตัวแล้วเคยอ่าน Ben วิเคราะห์ Amazon มาก่อนแล้ว เลยไม่แปลกใจมากนัก ในโพสต์นี้ Ben ยกย่องว่า Bezos สร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ 3 แห่ง

  1. Amazon.com
  2. AWS
  3. Amazon Marketplace ที่เปิดให้ผู้ค้ารายย่อยเข้ามาขายได้

ทั้ง 3 อาณาจักรมีจุดร่วมกันคือ สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ที่เปิดให้มีการสเกลขนาดใหญ่ในระดับไม่สามารถทำได้ในโลกจริงๆ (เช่น ร้านหนังสือที่มีหนังสือขาย 3 ล้านเล่ม) แล้วใช้พลังของ economy of scale ทำให้มันเป็นจริงได้ในทางปฏิบัติ

ในแง่ยุทธศาสตร์ ถ้ามองย้อนกลับไปคงไม่มีอะไรยาก แต่ถ้าดูจากบริบทในยุคสมัยที่สร้างแต่ละอย่างนั้น Amazon ถือเป็นผู้บุกเบิกก่อนใครๆ จึงต้องอาศัยวิสัยทัศน์ ความเฉียบคม และความกล้าหาญเป็นอย่างมาก ซึ่ง Bezos มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน (Ben จึงใช้คำว่า Relentless คือ ไม่หยุดยั้ง)

ถึงแม้ Amazon สร้างขึ้นมาจากพลังของคนเก่งๆ มากมาย แต่สุดท้ายแล้ว อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ก็ต้องมาจาก founder ที่ใหญ่ยิ่งอยู่ดี

ตลอด 26-27 ปีที่ผ่านมา Amazon เริ่มจากห้องแถวเล็กๆ ในภาพ กลายเป็นโลกที่ยิ่งใหญ่ที่ซ้อนทับกับโลกของ Bezos

แต่หลังจากนี้ไป Bezos วางมืออย่างสง่างาม ก้าวต่อไปของ Amazon ไม่ใช่โลกของ Jassy แต่เพียงผู้เดียวอีกแล้ว มันก็จะเป็นโลกของผู้นำหลายๆ คน เหมือนกับบริษัทรุ่นพี่ก่อนหน้านี้เดินทางไปก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, HP หรือ IBM ก็ตามที

หมายเหตุ: Ben อ้างหลายอย่างในหนังสือ The Everything Store ซึ่งยังไม่เคยอ่าน คงต้องไปหามาอ่านบ้างละ