in Manga, Movies

Mobile Suit Gundam: Char’s Counterattack

หลังดู Gundam: Hathaway เลยคิดถึงภาค Char’s Counterattack (CCA) จึงกลับมาย้อนดูใหม่

ผมดูผ่าน Netflix แต่เพิ่งเห็นเหมือนกันว่า YouTube: Gundam Official เพิ่งเอามาให้ดูฟรีแบบเต็มเรื่อง เมื่อปลายเดือน ก.ค. 2021 นี้เอง

Char’s Counterattack เป็นภาคหลักภาคที่ 4 ของกันดั้มในจักรวาล UC (Universal Century) และเป็นภาคที่ขมวดปมการต่อสู้ของตัวละครหลัก อามุโร่-ชาร์ ที่ยืดเยื้อยาวนานมาตั้งแต่ภาคแรก

ถ้าให้เรียงตามลำดับ timeline ในเรื่องคือ

  • UC0079 – Gundam (TV) – One Year War
  • UC0087 – Z Gundam (TV) – Gryps War
  • UC0088 – ZZ Gundam (TV) – First Neo Zeon War
  • UC0093 – Char’s Counterattack (Movie) – Second Neo Zeon War
  • UC0096 – Gundam Unicorn (OVA) – Third Neo Zeon War
  • UC0105 – Gundam Hathaway (Movie) – Mafty Incident
  • UC0123 – Gundam F91 (Movie) – Crossbone Vanguard
  • UC0153 – Gundam V (TV) – Cosmo Babylonia

เนื้อเรื่องแบบสั้นๆ คือ หลังจาก ชาร์ อัสนาเบิ้ล ทายาทผู้สืบทอดจักรวรรดิซีออน หายสาบสูญไปในตอนจบ Z Gundam (และไม่ได้ปรากฎตัวในภาค ZZ)

อีก 6 ปีถัดมา เขาก็กลับมาอีกครั้งโดยตั้งกองทัพ Neo Zeon ยุคที่สองขึ้นมาใหม่ (Neo Zeon ยุคแรกนำโดยฮามาน คาน จากภาค Z/ZZ) โดยได้รับการสนับสนุนจากชาวอวกาศ (spacenoids) ที่อาศัยอยู่ในโคโลนี

อย่างไรก็ตาม Neo Zeon ยุคที่สองไม่ได้มีกองกำลังมากมายเหมือน Zeon ยุคแรก หรือแม้แต่ Neo Zeon ยุคแรก ยุทธศาสตร์ของชาร์จึงเป็นการสร้างความเสียหายให้กับโลกแทน ด้วยการผลักอุกกาบาต-ดาวเคราะห์น้อยให้ตกสู่โลก เกิดเป็น nuclear winter ที่โลกอาศัยอยู่ไม่ได้ ชาวโลก (earthnoids) ทุกคนต้องอพยพออกสู่อวกาศ ปลดล็อคความผูกพันของมนุษย์กับโลก เข้าสู่ยุค spacenoids ตามอุดมการณ์ของ Zeon Deikun พ่อของชาร์ผู้สร้าง Zeon

หนังเปิดมาด้วยปฏิบัติการของชาร์ ในการผลักอุกกาบาต Fifth Luna ให้ตกสู่โลก ถล่มนครหลวงของสหพันธ์ที่เมืองลาซา ทิเบต ได้สำเร็จ แต่อุกกาบาตมีขนาดเล็กเกินไป เป้าหมายของชาร์คือการผลักดาวเคราะห์น้อย Axis (ที่ฝ่าย Neo Zeon ขับมาจากแถวๆ ดาวอังคารในภาค Z) ให้ตกสู่โลกตูมเดียวแล้วจบข่าว

ฝ่ายสหพันธ์โลกเองก็แตกแยกและเต็มไปด้วยความฉ้อฉล ยังดีว่า ยังมีกองกำลัง Londo Bell ที่สืบทอดมาจากยุคก่อน (หลังจบสงครามในภาค ZZ) ที่นำโดยกัปตันไบร์ท โนอา และนักบินคู่บารมี อามุโร่ เรย์ มาคอยขัดขวางไม่ให้แผนของชาร์สำเร็จ

กองกำลัง Londo Bell เองก็ไม่ได้ใหญ่โตเช่นกัน หน่วยอื่นๆ ของฝ่ายสหพันธ์ก็ไม่เข้ามาช่วยเหลือ (จนกระทั่งตอนท้ายๆ ของหนัง) ทำให้สงคราม Second Neo Zeon War เป็นสงครามแบบจำกัดวงเฉพาะการรบในอวกาศ ชิงอุกกาบาต-ดาวเคราะห์น้อยกัน (เหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องยาวประมาณ 15 วัน เทียบไม่ได้เลยกับสเกลสงครามอย่าง One Year War ในภาคแรก) แต่เดิมพันใหญ่หลวงกว่า คือเป็นการเดิมพันว่าโลกจะอยู่รอดได้หรือไม่

ตัวละครหลักของกันดั้มภาคแรก 2 คนคือ อามุโร่และชาร์ กลับมาเป็นตัวละครหลักที่ต้องมาสู้กันอีกครั้ง (หลังจากภาค Z มาอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่เป็นตัวละครรอง และไม่มีบทใน ZZ ทั้งคู่) นอกจากเป็นสงครามระหว่างอุดมการณ์แล้ว ยังเป็นการวัดฝีมือขับหุ่นของทั้งสองคน และเป็นการต่อสู้ในเรื่องส่วนตัวด้วย (พูดภาษาชาวบ้านคือแย่งผู้หญิงกัน ฮา)

นอกจากตัวละครหลักรุ่นเก่าแล้ว ภาค Char’s Counterattack ยังมีตัวละครรุ่นใหม่ เป็นวัยรุ่นเข้ามาอีก 2 คน ได้แก่ Quess Paraya นิวไทป์หญิง ลูกสาวของนายกรัฐมนตรีสหพันธ์ (ที่ไม่พอใจในตัวพ่อ) และ Hathaway Noa ลูกชายของกัปตันไบร์ท ที่บังเอิญพลัดหลงขึ้นมาบนอวกาศ

(ธีมหลักอันหนึ่งของกันดั้มภาคหลักแทบทุกภาค คือ การจับพลัดจับผลูของเด็กวัยรุ่นที่ได้มาขับหุ่นรบโดยบังเอิญ ซึ่งภาคนี้ยังปฏิบัติตามธรรมเนียมนี้)

หุ่นยนต์หลักของภาคนี้คือ นิวกันดั้ม (ν Gundam ตั้งชื่อตามตัวอักษรกรีก) ของอามุโร่ และ Sazabi ของชาร์ ซึ่งหุ่นทั้งสองตัวผลิตโดย Anaheim Electronics เจ้าเดิม โดยมีเทคโนโลยีใหม่คือ ไซโคเฟรม (Psycoframe) ที่คิดค้นโดยชาร์ แต่แอบปล่อยผ่าน Ahaheim มาให้อามุโร่ใช้ด้วย เพื่อให้ศักยภาพของหุ่นเท่ากัน วัดกันที่ฝีมือจริงๆ ว่าใครชนะ (ซึ่งสุดท้ายอามุโร่ชนะ ฮา)

ไซโคเฟรม เป็นของใหม่ในจักรวาลกันดั้ม นับจากภาค Z/ZZ ที่มีไซโคมิว (Psycommu) อุปกรณ์ที่ทำให้มนุษย์แบบนิวไทป์ สามารถขับหุ่นด้วยความคิดและคลื่นสมองได้

ปัญหาของไซโคมิวคืออุปกรณ์ควบคุมมีขนาดใหญ่ ห้องนักบินต้องใหญ่ หุ่นต้องใหญ่ตาม จึงมีเฉพาะในหุ่นขนาดใหญ่ (MA หรือ mobile armour ไม่ใช่ MS หรือ mobile suit)

ไซโคเฟรม เป็นการลดขนาดไซโคมิวลง ให้สามารถฝังชิปสื่อสารขนาดเล็กลงในตัวหุ่น (เฟรมของหุ่น) ทำให้หุ่นขนาดเล็กสามารถควบคุมด้วยความคิดได้ เราจึงเห็นทั้ง ν Gundam และ Sazabi มีอุปกรณ์ฟันเนล ที่เคยมีเฉพาะในหุ่น MA เท่านั้น (ν Gundam ถือเป็นกันดั้มตัวแรกที่มีฟันเนลด้วย) แนวคิดของไซโคเฟรมจะถูกขยายผลต่อในภาค Unicorn ที่เหตุการณ์เกิดขึ้น 3 ปีหลังจากภาคนี้ (ร่างแปลงของ Unicorn Gundam ที่เป็นสีแดง ก็คือพลังของไซโคเฟรมเวอร์ชันอัพเกรดจากนี้)

สุดท้าย สงครามในหนังภาค Char’s Counterattack จบลงด้วยชัยชนะของอามุโร่เหนือชาร์ (พร้อมทั้งคลายปริศนาว่า ชาร์มองลาล่าชูนเหมือนแม่ แต่ลาล่าดันไปชอบอามุโร่) ความตายของเควส (ที่จะส่งผลถึง Hathaway Noa ในอนาคตต่อไป) และตัวเอกทั้งสองคนคืออามุโร่และชาร์หายสาบสูญไป (MIA – missing in action ตามภาษาทหาร)

ทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดีเป็นตำนาน จนกระทั่งเรามาเจอความพิสดาร อิหยังวะที่สุดในจักรวาลกันดั้ม เพราะอามุโร่สามารถ “ดัน” ไม่ให้ดาวเคราะห์น้อย Axis ตกสู่โลกด้วยพลังของไซโคเฟรม ซะอย่างนั้น!

ตอนจบของ Char’s Counterattack ย่อมสร้างความขัดใจให้แฟนๆ กันดั้มที่ชอบสงครามหุ่นยนต์เรียลลิติกอย่างมาก (เถียงกันมาเป็น 30 ปีแล้ว) เพราะท่าอภินิหารไซโคเฟรม ทำให้กันดั้มกลายเป็นหุ่นอภินิหารไปเลย

พร้อมคำอธิบาย (แบบแถๆ) ของผู้กำกับ Tomino ว่า “ไซโคเฟรมตอบสนองความต้องการของนักบินโมบิลสูทและคนบนโลก ที่ไม่อยากเห็น Axis ตกใส่โลก เลยกลายเป็น คลื่นอันอบอุ่น ไร้ความเกลียดชัง ดันให้ Axis ลอยไปทางอื่น” ซึ่งอ่านกี่ที ดูกี่รอบ ก็ตลกทุกที

นอกจากตอนจบแล้ว Char’s Counterattack ถือเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างใช้ได้ (ดีกว่า F91 มาก) งานภาพก็ถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีของยุคสมัย ถือเป็นการปิดฉากตำนานการต่อสู้ของอามุโร่-ชาร์สักที

ข้อเสียหลักๆ ของมัน (ถ้าไม่รวมเรื่องไซโคเฟรม) คือผู้ชมต้องมีพื้นความรู้ในจักรวาล UC (ที่ซับซ้อน) ถึงจะดูรู้เรื่อง, ตัวละครหลายตัวที่บุคลิกค่อนข้างแบน (เช่น Gyunei Guss นักบินตัวประกอบของภาคนี้), แรงจูงใจของชาร์ที่ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก

จุดเล็กๆ อันหนึ่งที่ผมชอบในหนังคือ ตัวละครเด่นอย่างชาร์ ที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ ขับหุ่นก็เก่ง วางแผนก็เทพ เป็นนักการเมืองก็ได้ ชาติตระกูลยังเป็นทายาทของผู้สร้างอาณาจักร ย่อมมีคาริสม่าสูง มีผู้หญิงมาติดพันตลอดเวลา (ทุกภาค ภาคละหลายคน)

ในภาคนี้ ชาร์มี Nanai Miguel สาวสวยที่เป็นทั้งผู้ช่วยและคนรัก แถมยังมี Quess สาวน้อยที่มาตามกรี๊ดวีรบุรุษ ซึ่งชาร์ก็ใช้วิธี manipulate ความสัมพันธ์เพื่อหลอกใช้งานทั้งคู่ ก่อนมาเฉลยในตอนท้ายว่า คนที่อยู่ในใจของเขาจริงๆ คือลาล่าซูน (จากภาคแรก) โดยที่มองเธอเป็น mother figure มากกว่าคนรัก สะท้อนให้เห็นว่าชายที่โดดเดี่ยวแบบเขา ต้องหนีตายมาจากฝ่ายซีออนที่ฆ่าพ่อแม่ ตั้งแต่เด็กๆ (เหตุการณ์อยู่ในภาค Origin) โหยหาความรักจากแม่ขนาดไหน ถือเป็นอีกด้านของวีรบุรุษสงครามหล่อเท่แบบชาร์ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน