in Manga, Movies

Mobile Suit Gundam: Hathaway

ในฐานะแฟนกันดั้มก็ต้องบอกว่ารอคอยภาค Hathaway’s Flash ทำเป็นอนิเมะมานาน เพราะถือเป็นนิยาย 1 ใน 2 เรื่องของ Universal Century ของลุง Tomino (อีกเรื่องคือ Gaia Gear) มีความ official ในแบบฉบับของผู้ให้กำเนิดซีรีส์อย่างเต็มเปี่ยม

ปี 2021 ความฝันนี้ก็เป็นจริง เมื่อซันไรส์นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แบบ full featured film ในชื่อว่า Mobile Suit Gundam Hathaway (ไม่มี Flash)

อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ภาคนี้ยังนับเป็นแค่ภาค 1 ของซีรีส์ Hathaway เท่านั้น เพราะดัดแปลงจากนิยายเล่ม 1 โดยนิยายมีทั้งหมด 3 เล่ม ก็น่าจะมีทั้งหมด 3 ภาค แต่ตอนนี้ ซันไรส์ยังไม่บอกว่าภาค 2-3 จะตามมาเมื่อไร)

การดูกันดั้มยุคปี 2021 อะไรก็ง่ายกว่าเดิมมาก เพราะ Netflix ซื้อไลเซนส์มาฉายบนสตรีมมิ่งทันที มีพร้อมทั้งเสียงพากย์อังกฤษ ซับอังกฤษ ซับไทยให้เลือกสรร

ภาคต่อของ Char’s Counter Attack

สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนกันดั้มแบบดั้งเดิม อาจจะลำบากนิดนึง เพราะเนื้อหาใน Hathaway อ้างอิงถึงเหตุการณ์ในหนังภาค Char’s Counter Attack ค่อนข้างเยอะ (เวลาในเรื่องห่างกัน 12 ปี ในภาค Char’s นั้น พระเอก Hathaway อายุ 13 ปี ส่วนภาค Hathaway เขาอายุ 25 ปี)

เนื้อเรื่องของภาค Hathaway นั้นก็อิงอยู่กับพระเอก Hathaway Noah ลูกชายของกัปตัน Bright Noa คนดังแห่งจักรวาล U.C. โดยเหตุการณ์กบฎของชาร์ในปี UC 0093 ตัวของ Hathaway มีเอี่ยวกับสงครามด้วย เพราะเขาไปชอบนักบินหญิงนิวไทป์ Quess Paraya ที่ตายในการรบขณะสู้กับ Hathaway และได้เห็นการปะทะกันครั้งสุดท้ายของ Amuro-Char ทำให้สืบทอดอุดมการณ์เหล่านี้มา

12 ปีจากเหตุการณ์ใน UC 0093 ทำให้ Hathaway กลายเป็น “Mafty Navue Erin” ผู้นำสูงสุดขององค์กรก่อการร้าย Mafty ที่ต่อสู้กับความฟอนเฟะของรัฐบาลโลก

เรื่องย่อ

เนื้อเรื่องในภาค Hathaway เป็นบทเปิดของปฏิบัติการ Mafty ที่วนอยู่รอบตัวละครหลัก 3 คน ได้แก่ตัว Hathaway เอง, Gigi Andalucía หญิงสาวลึกลับ และ Kenneth Sleg ผู้บัญชาการคนใหม่ของฐานทัพ Davao ในฟิลิปปินส์ ดูแลพื้นที่แปซิฟิกใต้ ซึ่งฐานทัพของ Mafty ก็อยู่ในบริเวณนี้เช่นกัน

เรื่องเปิดมาด้วยการเดินทางร่วมกัน (โดยบังเอิญ) ของตัวละครหลักทั้ง 3 คน ในยานขนส่งอวกาศสุดหรูที่เต็มไปด้วยนักการเมืองของสหพันธ์ เดินทางจากอวกาศกลับสู่โลก แต่ระหว่างทางก็โดนไฮแจ็คโดยกองกำลัง Mafty ตัวปลอม ซึ่ง Hathaway กับ Kenneth ร่วมมือกันจัดการได้

การไฮแจ็คทำให้เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉินที่ Davao และผู้โดยสารต้องค้างคืนชั่วคราว เพื่อรอให้ข้อมูลกับทางการในวันรุ่งขึ้น Hathaway จึงต้องมาพักอยู่ในโรงแรมเดียวกับ Gigi ที่ค้นพบ (ด้วยญาณหยั่งรู้) ว่าจริงๆ แล้วเขานั่นแหละคือ Mafty

Hathaway ติดต่อให้ลูกน้องขับโมบิลสูทบุกมาโจมตีโรงแรมในยามค่ำคืน เพื่อก่อความชุลมุน และหาจังหวะหนีไป แต่กลับผิดแผน เพราะเขาต้องพา Gigi วิ่งหนีการต่อสู้ระหว่างโมบิลสูท จนไม่กล้าทิ้ง Gigi ในอีกทาง Kenneth ก็นำโมบิลสูทรุ่นใหม่ Penelope มาจัดการกับโมบิลสูทของ Mafty และจับลูกน้องของ Hathaway ไว้ได้

วันถัดมา Hathaway ให้การกับหน่วยสืบสวนของทางการเรียบร้อย และลักลอบหลบหนีกลับไปยังฐานของ Mafty แถวๆ เกาะ Halmahera ของอินโดนีเซีย ฝั่งของ Kenneth คิดได้ว่าเขาคือ Mafty และปฏิบัติการปูพรมตามหาฐานลับของ Mafty

ช่วงเดียวกัน บริษัทผลิตอาวุธ Anaheim Electronics ก็ส่งกันดั้มรุ่นใหม่ Xi Gundam (ที่เป็นแฝดกับ Penelope) จากอวกาศมาให้พอดี ภัยคุกคามจากกองทัพของ Kenneth ทำให้ Hathaway ต้องนั่งยานอวกาศจากโลกขึ้นไปเอาแคปซูลกันดั้มที่ขอบอวกาศ แล้วขับ Xi Gundam ลงมารับมือกับ Penelope

ด้วยชั้นเชิงของนักบิน Hathaway สามารถเอาชนะ Lane Aime นักบินของ Lane Aime นักบินของ Penelope ได้แบบไม่ยากเย็นนัก กันดั้มภาคนี้จบลงด้วยการหลบหนีของกองทัพ Mafty ไปยังฐานทัพอื่น ในขณะที่ Gigi ก็ออกเดินทางไปพบกับ Bright Noa พ่อของ Hathaway ที่เป็นนายทหารระดับสูงของสหพันธ์

บทวิจารณ์

ถ้าตัดประเด็นเรื่องบริบทในจักรวาล UC ที่ทำให้แฟนใหม่ “เข้าใจยาก” ออกไป ต้องยอมรับว่า Gundam Hathaway ทำออกมาได้ดีมาก (ต้องยกความดีให้พล็อตต้นฉบับของ Tomino ในวัยหนุ่ม ที่ยังมีพลังล้นเหลือ)

Gundam Hathaway เปิดเรื่องแบบหนังฝรั่ง เปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์ระทึกขวัญปล้นเครื่องบิน จากนั้นเล่นกับความลับและปริศนาในตัวของ Mafty ที่ใช้เวลาไม่นานก็เฉลยว่าคือพระเอก Hathaway Noa นั่นเอง

แต่เรื่องราวถัดจากนั้นกลับเนิบช้า เป็นสายสัมพันธ์ของ 3 ตัวละครหลัก (ที่ทั้ง 3 ตัวออกแบบคาแรกเตอร์มาได้ดี มีเอกลักษณ์ ไม่แบนราบ

  • Hathaway เขาเป็นหนึ่งในพระเอกกันดั้มที่มีความลึกที่สุดคนหนึ่ง ตั้งแต่ปมเรื่องพ่อผู้ยิ่งใหญ่ ปมเรื่อง Quess ที่เขามองว่าเป็นความผิดตัวเอง ความทะเยอทะยานของเขาในการโค่นรัฐบาลโลก และการปลอมตัวอย่างเนียนๆ ลักลอบเข้ามายังโลกผ่านยานอวกาศสุดหรู
  • Gigi เราไม่เคยเจอนางเอกสไตล์นางแบบสวยโฉบเฉี่ยวในโลกกันดั้มมานานแล้ว (เอ หรือไม่เคยมีเลยนะ) คาแรกเตอร์เธอเซ็กซี่ ร่าเริง ไม่กลัวผู้ชาย แต่ต้องตกมาอยู่ในความขัดแย้งระหว่างผู้ชายสองคน ก่อนจะเฉลยในตอนท้ายๆ ว่าเอาจริงแล้วเธอเป็น “นางห้าม” ของบารอนแก่ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้ใสๆ อินโนเซนต์แบบที่แสดงออก
  • Kenneth Sleg น่าจะเป็นทหารระดับบัญชาการที่โดดเด่นอีกคนในโลกกันดั้ม ทั้งเท่และฉลาด รู้เท่าทันและสามารถเป็นคู่ปรับของ Hathaway ได้

หลังจากนั้นเราเห็นปฏิบัติการทางทหารที่เมือง Davao ให้พอมีอะไรตื่นเต้น พร้อมกับการค่อยๆ คลี่ให้เห็นตัวละครในกองทัพของ Mafty ที่โผล่มาทีละคน (เรายังไม่เห็นสายสัมพันธ์ของ Hathaway กับคนในองค์กร Mafty มากนักในภาคนี้) ก่อนจะขมวดปมด้วยภารกิจขึ้นไปรับหุ่นกลางอวกาศของ Hathaway ซึ่งดูเท่และแปลกใหม่มาก และปิดท้ายเรื่องด้วยฉากต่อสู้ในฝันของหุ่นหลัก 2 ตัวของเรื่อง Xi และ Penelope ที่จบด้วยการโชว์เท่ของ Hathaway แสดงให้เห็นว่าเขามีความสามารถล้นเหลือ ทั้งการเป็นผู้นำองค์กร และการออกรบด้วยตัวเอง

งานภาพของ Gundam Hathaway ออกมาสวยงามโดยเฉพาะฉากหลังต่างๆ ที่ดูตั้งใจทำมาก (วาดตัวละครยังเห็นมีเผาๆ บ้าง แต่ฉากหลังสวยเนี้ยบ) การออกแบบค็อกพิทและหุ่นก็น่าสนใจ (แม้ Xi กับ Penelope มันแยกความแตกต่างยาก เพราะหน้าตาคล้ายๆ กันไปหน่อย) คุณภาพของงานภาพก็ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับ OVA ยุคหลังๆ อย่าง Unicorn

ค้นประวัติผู้กำกับ Shuko Murase พบว่าเพิ่งมาเดบิวต์เป็นผู้กำกับหนังใหญ่ครั้งแรกกับเรื่องนี้ แต่เคยกำกับอนิเมะทีวีมาก่อนแล้ว และเคยอยู่ในทีม F91, V, Wing รวมถึงเป็นคนออกแบบคาแรกเตอร์ของ FFIX ด้วย

ในฐานะแฟนกันดั้มก็สรุปได้ว่า พึงพอใจกับ Gundam Hathaway แต่คงต้องรออีกสักพักใหญ่ๆ เลยกว่าจะได้ดูจนจบไตรภาคล่ะนะ