in Technology

Goodbye Dropbox

ตัดสินใจเลิกใช้ Dropbox อย่างถาวร จึงมาบันทึกไว้

ที่ผ่านมาใช้ Dropbox เวอร์ชันฟรีมาตลอด เพราะคิดว่าราคาแพ็กเกจสตอเรจของ Dropbox แพงเกินไป แม้ว่า UX ของ Dropbox จะดีที่สุดก็ตาม

แต่สุดท้ายเลือกจ่ายให้กับ OneDrive และ Google Drive ด้วยเหตุผลว่าเป็นการ “จ่ายพ่วง” กับบริการอื่น นั่นคือ ตั้งจ่ายเงินเพื่อซื้อ Office 365 (แถม OneDrive 1TB) และจ่ายเงินเพื่อสตอเรจใน Gmail (แถมพื้นที่ Google Drive)

ตรงนี้เข้าใจและเห็นใจ Dropbox เหมือนกัน เพราะคู่แข่งทั้งสองรายเป็นยักษ์ใหญ่ ที่สามารถพ่วงบริการหลายๆ อย่างเข้าด้วยกันเพื่อสร้าง value proposition ที่ดีกว่าได้ ในขณะที่ Dropbox เป็นบริการสตอเรจแบบ standalone (แถมดันคิดแพง) แม้เอาใจช่วยแค่ไหนก็คงไม่อยากจ่าย เพราะเทียบกันแล้วไม่มีเหตุผลที่สมควรจ่ายเลย (ถ้าค่าสตอเรจตามพื้นที่เท่ากัน ก็คงจ่ายให้ Dropbox)

พอตัดสินใจใช้ Dropbox เวอร์ชันฟรี ก็จำกัดข้อมูลบน Dropbox เฉพาะไฟล์ที่ใช้บ่อยๆ เท่านั้น ไฟล์ที่นานๆ ใช้ที เก็บไว้เป็น archive ก็เก็บลง OneDrive แทน (ต้องยอมรับอีกเหมือนกันว่า UI/UX ของ OneDrive นี่คือแย่ที่สุดในทั้ง 3 เจ้า โดยเฉพาะ web client)

เหตุผลหลักที่ตัดสินใจเลิกใช้คือ Dropbox เริ่มจำกัดจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งาน สำหรับบัญชีแบบฟรี รู้สึกว่าบีบคั้นกันจนเกินไป

เมื่อบวกกับการจ่าย OneDrive ได้พื้นที่ 1TB อยู่แล้ว สินค้าสามารถแทนกันได้ 100% จึงตัดสินใจย้ายข้อมูลทั้งหมดไปเก็บไว้บน OneDrive เป็นหลัก และถอนการติดตั้งแอพ Dropbox ออกจากเครื่องพีซีบางเครื่องแล้ว