เขียนไว้บน Facebook เมื่อ 6 ปีที่แล้ว (2013) ตอนไปงานสัมมนา Asia-Pacific Roundtable ที่มาเลเซีย วันนี้มันแจ้งเตือนขึ้นมา คิดว่าเป็นประเด็นที่ดีเลยนำมา repost ลงบล็อกอีกครั้ง (เคยโพสต์ไปแล้วครั้งหนึ่งในบล็อกอันเก่า)
มาอ่านอีกรอบเมื่อเวลาผ่านไป 6 ปี บริบทเปลี่ยนไปมากแล้ว ตอนนี้จีนคงลืมเรื่องอาหารไปเรียบร้อยแล้ว และมีความฝันใหม่เป็น “One Belt One Road” หรือ คืนฝันสู่ต้าหมิง แทนแล้วกระมัง
จับพลัดจับผลูได้มางานสัมมน
เผอิญว่าไม่ใช่สาขาที่ถนัดก
มาดาม Fu Ying เป็นสตรีผมสีดอกเลา มาดเนี้ยบ ภาษาอังกฤษดีเยี่ยมชนิดว่าห
ดูหน้าและแนวแล้ว ผมว่าเธอคงผ่านงานมาเยอะตั้
หัวข้อของ Fu Ying ชื่อว่า “Deciphering the Chinese Dream and its implications for Asia” แปลภาษาไทยก็ได้แนวๆ ว่า “ถอดรหัสความฝันของจีน”
อ่านมาถึงตรงนี้คงงงว่า Chinese Dream มันคืออะไรวะ ผมก็งงเหมือนกัน
Fu Ying อธิบายว่า Chinese Dream เป็นความฝันของ “ชาติ” คือเป็นความใฝ่ฝันทั้งในระด
ความฝันของคนจีนนั้นง่ายๆ ตรงไปตรงมาว่า “อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น” และพัฒนาการทางเศรษฐกิจของจ
เธอเล่าว่า เคยมีคนอังกฤษถามเธอที่งานโ
คำตอบเรียบง่ายมาก แต่ทำยากมาก
ไม่ใช่ประเด็นอะไรซับซ้อนเล
“ทำอย่างไรจะมีอาหารพอเลี้ย
ปัญหาเรื่องอาหารเป็นปัญหาใ
Fu Ying บอกว่า การที่เห็นสภาพการขาดแคลนอา
(ตอนนี้จีนเลยมีปัญหาว่าคนร
แน่นอนว่า Fu Ying พูดในฐานะตัวแทนของรัฐจีน ย่อมต้องยกย่องรัฐในฐานะที่
แต่สิ่งที่ผมประทับใจก็คือ “ความฝัน” ของชาติมันอาจไม่จำเป็นต้อง
“ความฝัน” แบบนี้เป็นจิตวิญญาณรวมหมู่
แล้ว “ความฝันของไทย” ล่ะคืออะไรกัน?