ได้ฟังคลิป TEDx Berlin ของ Gerard Reid นักการเงิน นักลงทุนสายพลังงาน พูดไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2024 ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกพลังงานไว้อย่างน่าสนใจ
Reid บอกว่ามีปัจจัย 4 ข้อที่กำลังมาปฏิวัติโลกพลังงาน
- Solar – เป็นผลมาจากเทคโนโลยีด้าน semiconductor ทำให้เราได้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ถูกลงมากๆ แถมติดตั้งง่าย ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องใช้เวลาสร้างนานเป็นสิบปีแบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
- Battery – วงการแบตเตอรี่กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา (นับจากยุค Lithium-ion เกิดขึ้น) หลังไม่ขยับมานาน ทำให้ได้ ความจุพลังงานต่อน้ำหนักแบต ที่ดีขึ้นมาก
- Energy Intelligence – พลังของซอฟต์แวร์และอัลกอริทึม ทำให้เราใช้พลังงานในแต่ละช่วงเวลาให้ได้ประสิทธิผล (efficiency) สูงสุด ผลิตไฟแล้วปล่อยทิ้งน้อยลง
- พอเทคโนโลยีดีขึ้น เราจะเปลี่ยนจาก rooftop solar ที่ติดตั้งยาก มาเป็น balcony solar ที่วางไว้ตรงระเบียงก็ผลิตไฟได้แล้ว
- China – การลงทุน R&D ของจีนในเรื่องเทคโนโลยีพลังงาน นำหน้าโลกตะวันตกไปมากแล้ว
Reid บอกว่าเรากำลังเข้าสู่ “โลกใหม่ของพลังงาน” (A New World of Energy) ที่มีผลกระทบดังนี้
- เรากำลังอยู่ใกล้จุดพีคสุดของการปล่อยคาร์บอนแล้ว (peak carbon emission) ถัดจากนี้อัตราการปล่อยคาร์บอน (จากการใช้เชื้อเพลิงฟอซซิล) จะเริ่มลดลง โดยขึ้นกับจีนว่าพีคตรงไหน ถ้าจีนพีค โลกก็พีคตามจีน เพราะกลุ่มประเทศ OECD เข้าช่วงขาลงไปก่อนแล้ว คาดว่าพีคของจีนอาจเป็นปี 2024 นี่ล่ะ
- การใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น จะลดการขุดเจาะลง เพราะการขุดสินแร่ที่ใช้กับแบตเตอรี่ สามารถนำมารีไซเคิลได้ ต่างจากการขุดเจาะน้ำมันที่ใช้แล้วหมดไป ต้องขุดเจาะใหม่ตลอดเวลา
- เราเข้าใกล้จุดพีคของการใช้น้ำมันแล้วเช่นกัน (peak oil demand) จากความนิยมของรถ EV ที่มากขึ้น ตอนนี้ EV ช่วยโลกลดการใช้น้ำมันลงได้วันละ 2 ล้านบาร์เรลแล้ว (ตัวเลขปี 2023 estimated)
- ระบบพลังงานโลก จะเปลี่ยนจากการใช้น้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน ไปสู่พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ผลิตด้วยคาร์บอน (direct zero-carbon electricity generation) เช่น โซลาร์ ลม น้ำ นิวเคลียร์
- เราจะใช้พลังงานจาก renewable (โซลาร์/ลม) ด้วยเหตุผลว่ามันถูก!!! การใช้พลังงานทางเลือกแบบอื่นอย่างนิวเคลียร์นั้นแพงและไม่สเกล
- การใช้งานแบตเตอรี่ยังจะเปลี่ยนวิธีคิดของโรงไฟฟ้า จากเดิมสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่นอกเมือง แล้วส่งพลังงานมาตามสาย เปลี่ยนมาเป็นให้ทุกบ้านเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก เก็บพลังจากแสงอาทิตย์ใส่แบต ระบบกริดแบบเดิมจะไม่เวิร์คแล้วในยุคกระจายศูนย์
- กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (Global South) จะพัฒนาด้านพลังงานแบบก้าวกระโดด โดยมีจีนเป็นต้นแบบ ตัวอย่างคือ ปากีสถานที่ใช้พลังงานโซลาร์แล้ว 10% ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่ามันถูกกว่า!!! ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว (Global North) ปรับตัวช้ากว่ามาก
- บริษัทพลังงานแบบเดิมๆ จะอยู่ไม่รอด ตัวอย่างคือ Volkswagen กำลังอ่วม ในขณะที่ BYD รุ่งเรือง วิธีการผลิตรถของ Volkswagen สู้เรื่องต้นทุนไม่ได้อีกแล้ว
- จะเกิดแรงต้านจากผู้ครองอำนาจในโลกพลังงานเดิม เช่น กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
- ความมั่งคั่งของผู้ผลิตพลังงานจะถูกเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากผู้ผลิตน้ำมันไปยังผู้ผลิตแผงโซลาร์-แบตเตอรี่ จากกลุ่มประเทศตะวันตก อเมริกา ยุโรป ไปสู่จีน
- พลังแห่ง R&D จะสร้างเซอร์ไพร์สในโลกพลังงานอีกมาก ถ้ามองย้อนไป 10 ปีที่แล้ว เราคงไม่คิดว่าจะทำเครื่องบินพลังไฟฟ้าให้บินได้ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ยุคสมัยถัดไปมันจะเปลี่ยนเยอะกว่านี้อีก
Reid สรุปจบว่า ในฐานะคนเยอรมัน คนยุโรป เขาคิดว่าพวกเรากำลังนอนหลับอยู่ ตอนนี้ต้องตื่นได้แล้ว ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ถ้าใครยังไม่เคยไปจีน ก็ให้รีบไปดูว่าคู่แข่งของเราไปถึงไหนกันแล้ว
Reid มีบล็อกด้านพลังงาน และมีรายการพ็อดแคสต์ Redefining Energy เผื่อใครสนใจตามไปฟังกัน
บทความเก่าที่เกี่ยวข้อง ไฟฟ้า vs น้ำมัน