in Movies

The Long Night

ดู Game of Thrones ซีซัน 8 มาสองตอนแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรให้เขียนถึงสักเท่าไรเพราะเป็นตอน reunion กันเป็นหลัก พอตอนที่สามก็ถึงฉากสงครามที่ทุกคนรอคอย

[spoiler warning]

  • ชื่อตอนคือ The Long Night ซึ่งตั้งได้ดีมาก เพราะมันมืด (มืดทั้งตอน) และมันนาน (82 นาที) 😂 แต่จริงๆ ความหมายของมันมี 2 อย่างคือเป็นกลางคืนอันยาวนาน (เพราะสู้กันนาน) และหมายถึง “ราตรีอันยาวนาน” ซึ่งเป็นเป้าหมายของ Night King ด้วย
  • ฉากต่อสู้อลังการอย่างที่โม้ไว้ ดูแล้วบางฉากย่อยๆ ไม่จำเป็นต้องใส่มาก็ได้ แต่เพื่อความยิ่งใหญ่ก็ต้องจัดมาให้ครบๆ
  • อันที่ชอบคือจังหวะและวิธีการเล่าเรื่องทำได้คมคายดี ก่อนสงครามเริ่มต้น ทุกคนรู้ว่าสู้ได้ลำบากแน่ๆ แต่พอเริ่มสงครามจริงๆ ก็ไม่มีใครคิดว่าจะแพ้ยับเยินขนาดนี้ เส้นเรื่องตั้งแต่กองทัพ Dothraki ทัพหน้าผู้ฮึกเหิมออกไปรบแล้วตายหมด ฉากถอยทัพ กำแพงไฟ การทำลายกำแพงไป ไปจนถึงการบุกเข้าเมือง ความหวังทุกอย่างพังทลายลง (ช่วงกลางๆ ศึกเป็นต้นไป ใช้จังหวะดนตรีเข้าช่วยเพื่อให้บีบคั้นคนดู)
  • พอบิ้วมาตลอดทาง ขมวดปมเข้าเยอะๆ แล้วจบด้วยการ twist ที่ฉากฮีโร่ของอาร์ย่า แบบเซอร์ไพร์สทุกคน
  • อ่านเบื้องหลัง Maisie Williams นักแสดงที่เล่นเป็นอาร์ยา พอรู้บทตัวเองแล้วไปเล่าให้แฟนฟัง แฟนก็บอกว่า “นั่นมันหน้าที่จอนไม่ใช่เหรอ” ส่วน Kit Harington คนเล่นเป็นจอนก็พูดเหมือนกันว่า “ผมเข้าใจว่านั่นเป็นบทของผมซะอีก”
  • ฉากที่ดูไม่ค่อยรู้เรื่องคือการขี่มังกรตลอดทั้งตอน ที่ดูไม่ค่อยออกว่ากำลังทำอะไรกัน เพราะมืด + เร็วเกินไป
  • ตัวละครสำคัญหลายตัวต้องตายในตอนนี้ ตัวที่ไม่ค่อยแปลกใจนักคือ Jorah, Edd, Beric เพราะบทต้องตายอยู่แล้ว, Lyanna ออกจะน่าเสียดายแต่บทเป็นตัวละครรองที่ไม่มีผลกับเรื่องหลังจากนี้ ส่วนที่รู้สึกว่ายังไม่ควรตายคือ Theon เพราะก่อนหน้านี้บิ้วบทมานานมาก (ธีมของ Theon คือการไถ่โทษ) แล้วมาตายแบบนี้มันง่ายไปหน่อย
  • สุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่า Night King คือใคร ต้องการอะไร, Bran ทำอะไรตลอดเรื่อง และ Melisandre รวมถึงศาสนาแห่งไฟเป็นอย่างไร มีเป้าหมายอะไร ทำไมถึงชุบชีวิตคนได้ ซึ่งเผลอๆ ก็อาจไม่มีคำอธิบายด้วยซ้ำ
  • สิ่งที่น่าจับตาในตอนถัดๆ ไป (ที่เหลืออีก 3 ตอน) คือหลังเอาชนะ White Walkers ได้แล้ว เป้าหมายถัดไปคือการต่อสู้กับทัพของ Cersei ซึ่งก็ดูไม่ค่อยมีอะไรมากแล้ว คำถามคือจะ twist ยังไงอีกให้เซอร์ไพร์สคนดู