Strange World ภาพยนตร์แอนิเมชันลำดับที่ 61 ของ Disney เข้าฉายเมื่อปลายปี 2022 แต่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้และเสียงวิจารณ์
ลองดูจากตัวอย่างที่โปรโมทคือเป็นการผจญภัยของครอบครัวที่มีคน 3 รุ่น (ปู่ พ่อ หลาน นี่มัน Gundam Age!) ในโลกแปลกๆ ตามชื่อเรื่อง หน้าตาโลกแปลกๆ ที่ว่านี้สีออกแดงๆ ชมพูๆ ดูไม่ออกว่าเป็นโลกอะไร เป็นโลกต่างดาวหรือเปล่า หรือว่าต่างมิติกันแน่ คิดว่านี่เป็นปัญหาสำคัญข้อหนึ่งคือโปรโมทไม่ค่อยตรงจุด ไม่ชวนให้ไปดูเท่าไรนัก
แต่กลับกลายเป็นว่า โลกแปลกๆ นี่กลายเป็น plot twist หักมุมครั้งสำคัญของการ์ตูน Disney เลยทีเดียว
พล็อตหลักของ Strange World เป็นลูกผสมระหว่าง
- การผจญภัยในดินแดนลี้ลับ ผู้กำกับเล่าว่าได้อิทธิพลมาจากนิยายไซไฟ pulp fiction ในอดีต เช่น Journey to the Center of the Earth เดินทางไปในแกนโลก หรือ Fantastic Voyage เข้าไปในตัวมนุษย์
- ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว 3 รุ่น ที่ไม่ลงรอยกัน แต่ละคนมีชีวิตและความฝันของตัวเอง แต่กลับมีสภาพ “พ่อบังคับลูก” ให้เป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากให้ลูกเป็น
ผมคิดว่าพล็อตเรื่องผจญภัยทำเซ็ตติ้งออกมาได้ดีเลย (อารมณ์เหมือนดู The Secret of Blue Water) แต่น่าเสียดายว่าดันโดนเบียดบังโดยพล็อตเรื่องสายสัมพันธ์ 3 รุ่น ที่กลับทำได้ไม่ดี ดูซ้ำซากและรีบเร่งมากไป ทำให้หนังไปไม่ถึงศักยภาพที่ควรจะเป็นอย่างน่าเสียดาย
อันนี้น่าจะสะท้อนปัญหาของ Disney รุ่นหลังที่ “พยายาม” ชูเรื่องความสัมพันธ์มากเกินไป จนละเลยพื้นฐานเรื่องหนังที่ควรดูสนุกเป็นทุนเดิม แล้วพอเป็นคน 3 รุ่น แต่เวลาเล่าเรื่องมีจำกัดมาก (ไม่ใช่ซีรีส์ที่มีโอกาสเล่าเรื่อง ปูพื้นสัมพันธ์ตัวละครได้นานกว่า) ทุกอย่างจึงรวบรัดไปมากๆ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่อง LGBT/woke ที่ถูกวิจารณ์หนักเข้ามาด้วย โดยส่วนตัวไม่มีปัญหา แต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเกี่ยวกับพล็อตหลัก คือตัว Ethan ไม่ต้องมีคนรัก ไม่ต้องบอกว่าเป็นเพศอะไรเลยก็ยังได้
ลองจินตนาการดูว่า หากหนังลดปริมาณเรื่องตัวละครลง (เช่น ลดคนเหลือ 2 รุ่น เป็นแค่สายสัมพันธ์พ่อ-ลูก) แล้วใช้เวลากับเซ็ตติ้งในเรื่องให้มากกว่านี้ เพิ่มการผจญภัย ความลึกลับให้น่าติดตามกว่านี้ น่าจะเป็นหนังแนวผจญภัยของเด็กผู้ชายที่สนุกได้ไม่ยากเลย
หลังดูจบแล้วมาค้นพบว่าคู่ผู้กำกับคือ Don Hall และ Qui Nguyen ที่ร่วมงานกันจากเรื่อง Raya and the Last Dragon ซึ่งดูแล้วก็ไม่ชอบเช่นกัน
อย่างอื่นของหนังทำออกมาดี งานภาพสวย ออกแบบเมืองในเรื่องได้น่าสนใจเป็นสไตล์ steampunk (แม้มีบทน้อยไปหน่อย) ภาพรวมให้คะแนนสัก 6.5/10