นั่งอ่านเรื่อง PlatinumGames บริษัทญี่ปุ่น เจ้าของเกมดังอย่าง Nier: Automata และ Bayonetta แล้วประทับใจใน “สายสัมพันธ์” กับบรรดาบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ต่างๆ ที่เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ
PlatinumGames เกิดจากอดีตพนักงาน Capcom จำนวน 4 คน ที่แบ่งออกเป็น 2 สายคือ
- Seeds Inc. (หรือทีม Clover Studio เดิมของ Capcom) คือ
- Shinji Mikami ผู้กำกับ Bio Hazard ภาคแรก และ Dino Crisis
- Atsushi Inaba โปรดิวเซอร์ Viewtiful Joe, Okami และซีอีโอ Clover
- Hideki Kamiya ผู้กำกับ Bio Hazard 2 และ Devil May Cry
- Odd Ltd.
- Tatsuya Minami เคยอยู่ในทีม Rockman และ Makaimura
หมายเหตุ: Mikami ลาออกไปตั้งบริษัทตัวเองคือ Tango ตั้งแต่ปี 2010 มีผลงานคือ The Evil Within ซึ่งตอนนี้กลายเป็นบริษัทลูกของ ZeniMax (Bethesda) ไปแล้ว
การที่ PlatinumGames วางตัวเองเป็นผู้พัฒนา (developer) อย่างเดียว และหาบริษัทใหญ่มาเป็นผู้จัดจำหน่าย (publisher) ให้ เป็นการเปิดโอกาสให้ร่วมมือกับบริษัทเกมหลายราย เช่น
- Sega ในยุคแรกของบริษัทจำนวน 5 เกม ที่ดังที่สุดคือ Bayonetta
- Konami ไปช่วยทำ Metal Gear Rising: Revengeance ที่เป็นภาคแยกพิเศษ
- Nintendo ที่เข้ามาเสียบแทน Sega หลักๆ คือทำ Bayonetta 2 (และยังมี 3 รอคิวอยู่) กับซีรีส์ Star Fox บน Wii U และล่าสุดคือ Astral Chain
- Square Enix ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงคือ Nier: Automata
- บริษัทเกมมือถือของญี่ปุ่น 2 รายคือ Cygames และ DeNA
- บริษัทเกมฝรั่งก็ยังมีคือ Activision แม้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก (เกมจากหนัง เช่น เต่านินจา และ Transformers)
- เคสที่โด่งดังอีกอันคือ Scalebound ที่ทำกับไมโครซอฟท์แล้วถูกยกเลิกไป (กลายเป็นตราบาปของไมโครซอฟท์ไปอีกแสนนาน)
ตารางจาก Wikipedia
ในสายของบริษัทญี่ปุ่นแล้ว น่าจะเหลือแค่ Capcom (ที่คงไม่ได้ร่วมงานกันเพราะถือเป็นอดีตพนักงาน), Sony (ที่ช่วงหลังไม่ค่อยทำ third party เท่าไร) และ Bandai Namco เท่านั้นที่ยังไม่เคยร่วมงานกัน ส่วนค่ายฝรั่งก็อาจจะขาด EA เท่านั้นเอง
ผลงานต่อไปที่น่าจับตาของ PlatinumGames คือ Project G.G. ผลงานใหม่ของ Inaba/Kamiya ที่ประกาศว่าจะเป็น self-publishing คือจัดจำหน่ายเอง
และ Babylon’s Fall ที่ทำร่วมกับ Square Enix โดยมีสไตล์คล้ายกับ Nier มาก