in Thoughts

เหตุผลที่ไม่เข้าโรงหนัง

ข่าวเด่นของ Blognone วันนี้คือเรื่องผลกระทบของ Netflix กับยอดคนเข้าโรงหนัง

เรื่องนี้มี debate กันมานาน (ตั้งแต่ยุควิดีโอเทปได้กระมัง) และความเห็นแยกเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน แต่ละกลุ่มมีเหตุผลของตัวเองที่จับต้องได้

ส่วนตัวแล้วอยู่สายไม่เข้าโรงหนัง (ไม่ดูหนังในโรงมาประมาณ 5-6 ปีได้แล้ว ความย้อนแย้งคือเข้าโรงครั้งสุดท้ายไปดู Kingdom เพราะ Netflix เหมาโรงฉายให้ดู) แต่ก็มีเพื่อนสนิทที่หลงใหลใน “ประสบการณ์ดูหนังในโรง” อย่างมาก เลยเข้าใจความรู้สึกของคนชอบดูหนังในโรงอยู่พอสมควร

ถ้ามองในแง่วิถีปัจเจกชน รสนิยมของคนย่อมต่างกันและเคารพกัน แต่ในแง่ธุรกิจว่าโรงหนังจะอยู่ได้ในระยะยาวไหม ไม่ค่อยแน่ใจนัก และไม่สนใจเท่าไรเพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของโรงหนังอยู่แล้ว

เหตุผลที่ไม่เข้าโรงหนัง มีเยอะเลย

  • แพง ค่าตั๋วหนังสมัยนี้แพงกว่าเดิมมาก และด้วยกรอบเวลาทำให้ต้องกินข้าว (ในห้างที่มีโรงหนัง) ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายแล้วเยอะพอสมควร
  • ระยะเวลา การไปดูหนังต้องใช้เวลารวมเยอะมาก ตั้งแต่เวลาเดินทางไปโรง หาที่จอดรถ ไปซื้อตั๋วหน้าโรง กินข้าว รอหนังฉาย ฯลฯ สมมติว่าหนังยาว 2 ชม. น่าจะต้องใช้เวลาทั้งหมดอย่างต่ำประมาณ 4 ชั่วโมง
  • ช่วงเวลา หนังไทยชอบฉายแบบเทโรง หนังจะมาไวไปไว ไม่สามารถเลือกช่วงเวลาที่สะดวกได้ง่ายนัก สัปดาห์แรกที่หนังเข้า คนเยอะ ราคาแพง แต่ถ้าเป็นสัปดาห์ถัดๆ ไปอาจออกโรงไปแล้ว
  • มันหยุดพักไม่ได้ เคยดูหนังแล้วปวดฉี่กลางเรื่องนี่เป็นเรื่องแย่มาก จะวิ่งออกไปฉี่ก็กลัวพลาดฉากสำคัญ จะอั้นไว้ก็ทรมาน

เหตุผลที่เข้าโรงหนัง มีไม่เยอะนัก

  • หนังใหม่กว่า -> ทำใจให้รอได้
  • ประสบการณ์ภาพ-เสียงดีกว่า -> ไม่ได้แคร์เท่าไรอยู่แล้ว
  • ไม่โดน interrupt จากโลกภายนอก -> อันนี้จริง แต่อาจโดน interrupt จากเพื่อนร่วมโรง