in Football

2023 FIFA Women’s World Cup

ภาพประกอบจาก @FIFAWWC

เพิ่งเคยดูฟุตบอลหญิงแบบจริงจังเต็มแมตช์เป็นครั้งแรก ด้วยเหตุว่าเริ่มสนใจฟุตบอลหญิงมาสักระยะแล้ว เมื่อฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 มาจัดที่ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ทำให้นัดชิงชนะเลิศเตะตรงกับเวลา 17.00 น. ของบ้านเรา (2 ทุ่มของที่ซิดนีย์ สนามแข่งนัดชิง) เวลาดีไม่ต้องตื่นมาดู บวกกับช่องทางถ่ายทอดสดผ่านแอพ FIFA+ ของฟีฟ่าถ่ายเอง ดูฟรีแบบมีโฆษณาเล็กน้อย ช่องทางสะดวกอีกต่างหาก

เมื่อปัจจัยทุกอย่างพร้อมสรรพ จึงไม่มีเหตุผลที่เราไม่ควรดู

ออกตัวว่าไม่ได้ติดตามฟุตบอลหญิงมาก่อน รู้จักตัวผู้เล่นไม่เยอะ สำหรับนัดชิงรู้จักแค่ Lauren James ของอังกฤษ (น้องสาวของ Reece James) และ Alexia Putellas ดาวดังของวงการฟุตบอลหญิงจากสเปน

ทัวร์นาเมนต์ Women’s World Cup 2023 นั้น ตัวเต็งอย่างสหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น ทยอยตกรอบกันไปหมด (ลาก่อน Megan Rapinoe ที่อดได้แชมป์โลกสมัยที่สาม) ทีมในรอบเซมิไฟนอลทั้ง 4 ทีมไม่เคยได้แชมป์โลกมาก่อนเลย ทั้งสเปน สวีเดน ออสเตรเลีย อังกฤษ ดังนั้นต้องจบด้วยการมีแชมป์โลกรายใหม่แน่ๆ

เนื่องจากเราติดตามสื่อจากฝั่งอังกฤษเยอะกว่าอยู่แล้ว การที่อังกฤษได้เข้าชิงแชมป์โลก (อีกทั้งเป็นทีมชุดเดียวกับที่ได้แชมป์ยูโรหญิงปี 2022 มาหมาดๆ) เราจึงเห็นประโยค It’s Coming Home กลับมากระหึ่มอีกครั้ง เหมือนตอนทีมฟุตบอลชายเข้าชิงยูโร 2020 ที่จัดแข่งในปี 2021

ส่วนฝั่งสเปน แม้ไม่ได้ติดตามใกล้ชิดเท่า แต่ก็ได้ยินชื่อเสียงของ Alexia Putellas มาพอสมควร บวกกับ Barcelona เพิ่งคว้าแชมป์ UCL หญิง (ชื่อทางการคือ UEFA Women’s Champions League หรือตัวย่อ UWCL) ของปี 2023 มาหมาดๆ แบบตามหลัง 0-2 แล้วยิงแซงชนะ 3-2 ด้วย เลยคาดว่าทีมหญิงสเปนน่าจะใช้ตัวผู้เล่นจาก Barcelona เป็นหลัก เหมือนตอนทีมชายสเปนได้แชมป์โลก 2010

https://twitter.com/FIFAWWC/status/1693208551173529659

เริ่มแข่งมา อังกฤษได้ทักทายก่อนจากการยิงชนคาน แต่จากนั้นสเปนก็เริ่มคุมเกมได้ บุกหนัก แล้วพอยิงได้ตอนนาที 29 แล้วยาวเลย ซึ่งต้องยอมรับว่ายิงสวยมากจริงๆ ช่องระหว่างมือโกลกับเสามีอยู่นิดเดียว แต่ยิงแม่นมาก พอโดนยิงแล้วอังกฤษก็แทบเล่นไม่ออกเลย โดยเฉพาะแดนกลางที่โดนสเปนคุมเกมหมด

ในทัวร์นาเมนต์นี้ ตัวเด่นของอังกฤษคือ Lauren James ดันมีดราม่าไปโดนใบแดงในรอบ 16 ทีมซะก่อน จึงโดนแบน 2 นัด และกลับมามีสิทธิเล่นในนัดชิง ซึ่งผู้จัดการของอังกฤษ Sarina Wiegman (เป็นคนดัทช์) เลือกใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากรอบเซมิไฟนอลเกือบหมด ทำให้ James ไม่ได้ลงเป็นตัวจริงตอนเริ่มเกม แต่เมื่อเกมตามหลัง 1-0 ทำให้เธอได้ลงมาในครึ่งหลัง ลงมาแล้วก็ทำผลงานได้ดี แต่เล่นดีคนเดียวช่วยอะไรไม่ได้ สเปนคุมแดนกลางหมด อังกฤษบุกไม่ขึ้นเหมือนเดิม แถมเมื่อเสียบอลแดนกลาง แล้วโดนสเปนสวนกลับอยู่เรื่อยๆ

เกมมีจุดเปลี่ยนอีกรอบตอนนาที 70 ที่อังกฤษทำแฮนด์บอลในเขตโทษ (แม้โดนนิดเดียวแต่ก็โดนจริงๆ) สเปนจึงได้ลูกโทษ แต่กลับยิงไม่ดี และโกล Mary Earps (จากทีมแมนยูหญิง) ดักทางถูกจึงรับไว้ได้ ต้องบอกว่า Earps เล่นดีจริงๆ ไม่งั้นอังกฤษโดนไปอีกหลายลูกแล้ว

แต่ถึงแม้เซฟจุดโทษได้ คะแนนยังเป็น 1-0 อังกฤษก็ยังบุกไม่ขึ้นอยู่ดี พอช่วงท้ายๆ ยิ่งลน (แม้ทดเวลาถึง 13 นาทีเพราะมีผู้เล่นเจ็บเยอะ) ส่งบอลผิดๆ ถูกๆ เสียบอลให้สเปนตลอด เกมจึงจบลงด้วยสกอร์ 1-0 รูปแบบเหมือนนัดชิงใหญ่ๆ หลายนัดที่ทีมสองฝั่งมีความสามารถพอๆ กัน พอเกิดมีทีมนึงยิงได้แล้วสบายเลย เพราะเตะไม่กดดันแล้ว (อารมณ์เหมือนนัดชิง UCL 2019 ที่เชลซียิงแมนซิตี้ได้ก่อน 1-0 แล้วซิตี้เอาคืนไม่ได้)

https://twitter.com/FIFAcom/status/1693242099569668257

หลังเกมจบ เลยมานั่งดูตัวผู้เล่นของสเปนที่ลงในนัดชิง ก็พบว่าส่วนใหญ่มาจาก Barcelona ตามคาด (สีเหลือง) เสริมด้วยตัวจาก Real Madrid (สีเขียว) และทีมอื่นอีกแค่ 2 คน

ข้อมูลอื่นที่ทราบเพิ่มเติมคือ ผู้เล่นสเปนถึง 15 คน ซึ่งรวมถึง Patricia Guijarro (Patri) ตัวเก่งอีกคนของ Barcelona ที่ยิง 2 ลูกในนัดชิง UWCL ปฏิเสธไม่ร่วมลงเล่นในทัวร์นาเมนต์บอลโลก 2023 เพราะไม่พอใจแนวทางของผู้จัดการทีม Jorge Vilda มาตั้งแต่ยูโร 2022 (Daily Mirror) แต่พอ Vilda ทำทีมได้แชมป์โลกหญิงเป็นครั้งแรกได้สำเร็จแบบนี้ ก็ไม่รู้เป็นอย่างไรอีกเหมือนกัน

อื่นๆ เรื่อง FIFA

  • ดูถ่ายทอดสดจากแอพ FIFA+ บน Android TV ก็ทำได้ดีเลย ภาพคมชัด ไม่กระตุก มีโฆษณาตอนเริ่มเล็กน้อย (3 คลิปสั้นๆ เป็นโฆษณาไทย อิงตามพื้นที่) แล้วที่เหลือก็ไม่มีโฆษณาเลย
  • ข้อเสียคือ FIFA เอาคอนเทนต์ทั้งหมดของตัวเองลง FIFA+ อย่างเดียว ไม่เผยแพร่ช่องทางอื่นเลย คลิปไฮไลท์ก็ไม่ยอมลง YouTube หรือแพลตฟอร์มวิดีโออื่นใดด้วย ต้องดูผ่านเว็บ FIFA เท่านั้น (ไฮไลท์นัดชิง) ทำให้ปิดโอกาสการเผยแพร่บอลหญิงไปอย่างน่าเสียดาย เพราะคนหาบน YouTube ไม่มี ก็คงขี้เกียจดู ไม่มีคนติดตามไปจนถึงเว็บ FIFA มากนัก