ถ้าถามคอฟุตบอลว่า โลโก้ของฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลยูโรคราวที่แล้ว (หรือแม้กระทั่งคราวนี้) หน้าตาเป็นอย่างไร ไม่น่าจะมีใครจำได้สักเท่าไร
แต่ถ้าถามว่าโลโก้ของ Champions League คืออะไร คนน่าจะตอบกันได้พร้อมเพรียงว่า เป็นลูกฟุตบอลที่มีดาว (พร้อมเพลงประกอบลอยขึ้นมาในหัว ยูฟ้าแชมป์ ยูฟ้าแชมป์ ยูฟ้าแชมเปี้ยนลีกกกก)
โลโก้อันนี้มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า Starball ผมคิดว่าเป็นโลโก้ที่ถูกจดจำได้มากที่สุดอันหนึ่งของวงการกีฬาเลยก็ว่าได้ (ระดับเดียวกับ 5 ห่วงโอลิมปิก) แถมเรายังเห็นมันถูกผลิตและเผยแพร่ซ้ำๆ ไปมาในการแข่งขัน UCL ทุกนัดของทุกปี ในแง่ความถี่ของการใช้งานน่าจะเยอะโอลิมปิกซะอีก
ในบรรดาการแข่งขันทั้งหมดของ UEFA เอง โลโก้ Starball ก็โดดเด่นเหนือพี่น้องคนอื่นๆ (ฮา) ตัวโลโก้ของ Europa League หรือ Eufa Conference League ที่เป็นรูปถ้วยไม่น่าจะมีใครจำได้ ส่วนโลโก้ของ UEFA เอง (รูปแผนที่ยุโรปในวงสีแดง) ก็ไม่ค่อยมีใครรู้จักอีกเหมือนกัน
นอกจากดีไซน์โดดเด่นเป็นที่จดจำ ความหมายของมันก็ยังดีมากคือลูกฟุตบอล + ดาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธงยุโรป (EU) เรียกได้ว่าสอบผ่านทั้งความหมายและดีไซน์
ความคลาสสิกของโลโก้ Starball ทำให้ผมเกิดความสงสัยว่า จุดกำเนิดของมันคืออะไร เลยลองไปค้นข้อมูลดู
แฟนฟุตบอลยุคเก่าๆ หน่อยน่าจะพอจำกันได้ว่าชื่อแบรนด์ Champions League เกิดขึ้นในปี 1992 เพราะก่อนหน้านั้นใช้ชื่อว่า European Cup (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ European Champion Clubs’ Cup) แล้ว UEFA ปรับฟอร์แมตการแข่งขันใหม่ให้เป็น “ลีก” คือมีรอบแบ่งกลุ่มที่เตะพบกันหมดเข้ามาก่อนรอบน็อคเอาท์ จากนั้นเลยต้องรีแบรนด์ชื่อไปพร้อมกันด้วย
ในการรีแบรนด์ชื่อช่วงปี 1992 ทาง UEFA เองเลยตัดสินใจให้มีโลโก้ของการแข่งขันด้วย เพราะก่อนหน้านั้นในยุคของ European Cup ไม่มีโลโก้ของตัวเอง ใช้เฉพาะโลโก้ของ UEFA กับรูป “ถ้วยหูใหญ่” เท่านั้น (ถ้วยดีไซน์นี้ใช้มาตั้งแต่ปี 1967)
UEFA ใช้วิธีให้บริษัทดีไซน์ต่างๆ เสนอแบบเข้าประกวดกัน มีดีไซน์เข้าประกวดทั้งหมด 50 แบบ บริษัทที่ชนะเป็นบริษัทอังกฤษชื่อ Design Bridge
เจ้าของไอเดียฟุตบอลดาวคือ Phil Clements ผู้ร่วมก่อตั้ง Design Bridge โดยเรื่องราวเบื้องหลังมีให้อ่านในบทความ Shooting for the stars ของ Champions Journal นิตยสารของ Champions League (ต้องสมัครสมาชิกฟรี ถึงจะอ่านบทความเต็มๆ ได้)
Clements เล่าว่าลูกน้องที่ประชุมกับทีมของ UEFA เดินมาถามในออฟฟิศ ว่ามีใครมีไอเดียอะไรบ้างสำหรับโลโก้ของ Champions League เขาก็เกิดไอเดียขึ้นมาทันที และลงมือลองวาดลงกระดาษเดี๋ยวนั้นเลย
ไอเดียของ Clements มาจากบรีฟประโยคเดียวที่ระบุรายละเอียดของการแข่งขันว่า “eight star teams come together” (ไอเดียตอนแรกคือมีรอบแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม) พอเขาได้ยินคำว่า star ก็เลยปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมา นำดาวแปดดวงมาต่อกัน
“It was the thought of the European flag and football combined, so I drew a circle and drew stars in it,” says Clements. “But whichever way you were to hold a football, you wouldn’t see eight stars on it at once. So I kind of, for want of a better word, bodged them in.”
หลังจากนั้น ทีม Design Bridge จึงลองสร้างลูกฟุตบอลลายดาวขึ้นมาจริงๆ โดยใช้วิธีเพนต์ลูกบอลให้เป็นสีขาวล้วน แล้วเพนต์รูปดาวทับลงไป
“I knew, because a ball is made up of pentagons and hexagons, that if you put a star on each pentagon then it should, in theory, work. I had one of the mock-up artists in the artwork department help me. We did it old school: we sprayed an adidas ball white, put frisk film on it with star shapes cut out and then sprayed it black.”
ดีไซน์คู่แข่งอีกอันที่ได้คะแนนเป็นอันดับสอง ว่ากันว่าเป็นรูปดาวตก น่าเสียดายว่าเราไม่ได้เห็นดีไซน์ที่เข้าประกวดทั้งหมดว่ามีอะไรกันบ้าง
เกร็ดเล็กๆ อันหนึ่งคือทีม Design Bridge เลือกนำเสนอโลโก้นี้กับ UEFA ด้วยลูกบอลลายดาวจริงๆ ในสนามฟุตบอลที่เมือง Gothenburg ในสวีเดน ผลคือผู้บริหาร UEFA ชอบมาก เอาฟุตบอลไปเตะเล่นกันต่อ และลูกฟุตบอลต้นแบบลูกนี้หายไป แต่ Design Bridge ชนะการแข่งขันโลโก้ครั้งนี้
“One of the UEFA representatives took the ball and started playing with it in this meeting room – and probably a grand’s worth of mock-up literally went flying out the window. We lost the ball but we won the pitch.”
ความเห็นจากนักเตะฟุตบอลก็ออกมาดีเช่นกัน Craig Thompson ผู้จัดการคนแรกของ Champions League เล่าให้ฟังว่าได้ไปตีเทนนิสกับ Carles Puyol อดีตกัปตันของ Barcelona และถามว่าชอบลูกฟุตบอลแบบไหนที่สุด คำตอบก็ชัดเจนว่าคือ Champions League
‘If you had the choice, what ball would you want to play with?’ He said, ‘Craig, there’s no decision to be made here: the Champions League ball is by far the best that we play with. That’s what all the players think. It’s beautiful. We love it.’ I was blown away.”
UEFA ตัดสินใจเลือกโลโก้ Starball ในปี 1992 แต่กว่ามันจะถูกใช้อย่างแพร่หลายก็ต้องผ่านไปอีกหลายปี
โลโก้ถูกนำมาโชว์ต่อสาธารณะในการแข่งขันครั้งแรกคือแมตช์ระหว่าง Glasgow Rangers กับ Marseille เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 1992 (สนาม Ibrox ของ Rangers คือสนามแรกที่เคยมีโลโก้ Starball ปรากฏตัว)
แต่กว่าโลโก้จะปรากฏตัวในโปสเตอร์ของนัดชิงชนะเลิศ ก็ต้องรอถึงปี 1995 ส่วนโลโก้กับถ้วยหูใหญ่มารวมร่างกันครั้งแรกในปี 1997 (อ้างอิง)
ถัดมาคือลูกฟุตบอลรูปดาว ถูกนำมาใช้ในแมตช์จริงๆ ครั้งแรกปี 2001 ในรอบรองชนะเลิศระหว่าง Bayern München กับ Real Madrid
ส่วนการใช้ครบทุกแมตช์เริ่มครั้งแรกในฤดูกาล 2006/2007 บอลในยุคแรกๆ เป็นการนำบอลของ Adidas ที่เป็นแผ่นหนัง 5-6 เหลี่ยมมาเพนต์สีทับ แต่ลูกบอลที่ผลิตแผ่นหนังมาเป็นรูปดาวจริงๆ เกิดขึ้นในนัดชิงปี 2010
ความยิ่งใหญ่ของ Starball จากดีไซน์ที่โดดเด่นของมัน ทำให้ UEFA ยุคหลังที่เน้นการออกแบบมากขึ้น ก็นำเอา Starball ไปดัดแปลงเป็น design system แบบต่างๆ ในการแข่งขัน UCL ยุคหลัง ซึ่งแต่ละปีก็มีธีมต่างกันไป (ดูภาพแบบรวมๆ ได้จาก UCL Brand Site ของ UEFA)
ตัวของ Clements ในฐานะผู้ออกแบบโลโก้ Starball อันนี้ก็บอกว่าภูมิใจกับมันมาก ถือเป็นจุดสูงสุดในวิชาชีพของเขาเลย โดยยกมันเทียบกับลูกยิงในนัดชิงปี 1999 ของ Solskjaer
“I’m really, really proud of it,” says Clements of that logo. “I liken it to Solskjaer’s goal at the end of the 1999 final: in one moment of my career I scored a lifetime winner. And it’s stood the test of time.”
จบด้วยเพลง Champions League Anthem เวอร์ชันเต็ม (เพิ่งเคยฟังเหมือนกัน)