ส่วนตัวแล้วเป็นแฟนมังงะของ Ryoji Minagawa มาตั้งแต่ยุค 90s โดยผลงานเด่นของเขาคือ Spriggan และ Arms (ผมเคยถึงขั้นหัดทำเว็บไซต์ยุคแรกเริ่มด้วย HTML เป็นเว็บรวมเนื้อหาเรื่อง Arms ด้วยซ้ำ แต่เว็บไปอยู่ไหนหมดแล้วไม่รู้)
แม้ผลงานช่วงหลังๆ อาจไม่ดังมากนัก เช่น D-Live (ที่ไม่สนุกเท่าไรเลย เพิ่งมารู้ทีหลังว่ามันไม่สนุกเพราะพี่แกแต่งเรื่องเอง ผลงานที่ดังๆ นั้นคนอื่นแต่งเรื่องให้) หรือ Adamas ที่ไม่ได้อ่านแล้ว
พอมารู้ข่าวว่า Spriggan ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะอีกรอบในปี 2022 จึงค่อนข้างเซอร์ไพร์สเหมือนกัน ไม่นึกว่าการ์ตูนที่เก่าขนาดนี้จะมีโอกาสได้กลับมาทำเป็นอนิเมะใหม่ โดยเป็นผลงานของ Netflix ออกทุนสร้างให้ และใช้สตูดิโอ David Production ที่เป็นแก๊ง Gonzo กลุ่มหนึ่งลาออกมาเปิดบริษัทใหม่ (ผลงานเด่นคือ JoJo’s Bizarre Adventure ยุคใหม่)
ตัวเนื้อเรื่องของ Spriggan นั้นค่อนข้างสนุกและมีเอกลักษณ์อยู่แล้ว (อินเดียน่าโจนส์ยุคใหม่ ค้นหาสมบัติโบราณด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรสมัยใหม่) แถมเนื้อเรื่องในมังงะเองเป็นวิธีการเล่าแบบ arc คือทำภารกิจไขปริศนาหรือค้นหาสมบัติแต่ละแห่งที่แตกต่างกัน โดยมีเฉพาะตัวละครหลักๆ ที่ปรากฏตัวในแต่ละ arc ทำให้เรื่องเหมาะกับการทำเป็นซีรีส์แบบจบในตอน
แต่ในอีกด้าน การเล่าเรื่องแบบนี้ก็เป็นข้อเสียอีกเหมือนกัน เพราะเรื่องแต่ละตอนมันไม่ต่อเนื่องกัน ไม่มีแรงจูงใจให้ต้องติดตามดูตอนต่อไปมากนัก (หลังจากเริ่มออกฉายแล้วดูๆ หยุดๆ มาเป็นเดือนกว่าจะจบ)
ในซีซันแรกทำมาด้วยกัน 6 ตอนคือ
- Flame Serpent ศาลบูชางูไฟของภูเขาไฟฟูจิ
- Noah’s Ark เรือโนอาห์ที่ภูเขาอารารัตในตุรกี
- The Forest of No Return ป่าอมตะในอินเดีย
- Berserker กู้ซากหุ่นยนต์สงครามโบราณ
- The Crystal Skull ล่ากะโหลกคริสตัลในตะวันออกกลาง
- The Forgotten Kingdom เกาะล่องหนกลางมหาสมุทรแปซิฟิก
เนื่องจากไม่มีหนังสืออยู่กับมือ เลยจำไม่ได้ว่ามีตอนอะไรบ้างในมังงะ แต่ประเมินเองว่าอนิเมะ season 1 น่าจะดึงมาราว 1/3 ของตอนทั้งหมดในมังงะ โดยข้ามบางตอนในช่วงแรกๆ ไป เช่น ตอนหน้ากากปริศนา
ผู้สร้างฉบับปี 2022 ดัดแปลงบทเล็กน้อยให้ตัวละครในเรื่อง (ยุค 90s) ใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตยุคปี 2022 ซึ่งดูเข้ากันได้ดี งานภาพสมัยใหม่ใช้ CG มาช่วยทำให้ดูมีมิติ 3D มากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ 3 ป่าอมตะที่นำ CG มาใช้สร้างภาพอสุรกายในป่าได้อลังการดี
เนื่องจากรู้เรื่องหมดอยู่แล้ว (แม้ไม่ได้อ่านมานานมากก็ยังพอจำได้เลาๆ) ทำให้ไม่เซอร์ไพร์สกับพล็อตหักมุมบางตอนสักเท่าไร แต่ในฐานะแฟน Spriggan ยังไงซะก็ต้องดูอยู่ดี หลังจากดูจบแล้วก็รอให้มีซีซัน 2 ตามมาต่อไป