เกมแรกบน Nintendo Switch ที่เล่นจบ (เพิ่งซื้อเครื่องเมื่อเดือนเมษายน 2023) มาบันทึกไว้สักหน่อย
- เกมพัฒนาโดย Next Level Games จากแคนาดา ที่เคยทำเกมภาค 2 มาก่อนแล้ว เกมภาค 3 ออกในปี 2019 แล้วประสบความสำเร็จดี (คะแนนรีวิวเฉลี่ย 86/100, ยอดขายเกิน 12 ล้านชุด) ทำให้นินเทนโดซื้อกิจการเต็มรูปแบบในปี 2021
- ตัว core gameplay loop ของภาค 3 ยังเป็นหลุยจิใช้เครื่องดูดฝุ่นไล่ดูดผี เหมือนภาคก่อนๆ แต่ภาค 3 พัฒนาให้สมบูรณ์ขึ้นอีกมาก พัฒนาการสำคัญคือการมี Gooigi (หลุยจิตัวเขียว ที่สร้างจากของเหลว) มาเป็นผู้ช่วย ทำให้เกิดเกมเพลย์แบบ co-op สลับกันได้หลากหลายมากขึ้น
- การออกแบบด่านของเกมก็น่าสนใจมาก ในเกมภาคแรกเป็น “แมนชั่น” ที่ต้องเดินสำรวจไปทีละส่วน (อารมณ์เหมือน Resident Evil ภาคแรก) ส่วนภาคสองเป็น “หมู่บ้าน” ที่มีบ้านหลายหลัง สำรวจทีละโซน กรณีของภาคสามเป็น “โรงแรม” ที่มีแนวคิดของชั้น ที่เข้าถึงได้ผ่านลิฟต์ แล้วเราต้องไปสู้กับผีเพื่อชิงปุ่มลิฟต์ของชั้นถัดๆ ไปมา ถือเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ดี
- โรงแรมมีทั้งหมด 18 ชั้น (ชั้นปกติ 15 ชั้น + ใต้ดิน 2 ชั้น + ดาดฟ้าที่เป็นบอสใหญ่) หลายชั้นออกแบบมาได้สนุกและน่าดึงดูด เช่น ชั้นภัตตาคารเรือ, ชั้นห้องนอนธีมพีระมิดอียิปต์, หรือแม้แต่ชั้นที่เป็นพื้นฐานของโรงแรมทั่วไป เช่น ฟิตเนส ห้องอาหาร ก็ทำออกมาได้ดี มีการโยงข้ามไปมาระหว่างชั้นได้ด้วย
- ความยาวของแต่ละชั้นใช้เวลาไม่มาก ทุกชั้นมีบอส บางชั้นเข้ามาแล้วแทบสู้กับบอสเลยทันที แต่สิ่งที่ทำให้เกมยาวขึ้นมากคือ การเก็บไอเทมเพชร gems (มีชั้นละ 6 ชิ้น) ที่ซ่อนกันได้ลึกลับมาก (บางชิ้นถ้าไม่อ่าน walkthrough นี่แทบไม่มีทางหาเจอ) ช่วยเพิ่มมิติของการสำรวจความลับในเลเวลได้อีกมาก และเพิ่มอัตราการเล่นซ้ำ (playthrough) ได้เยอะเลย
- บอสตัวที่ยากที่สุด ยกให้ชั้น B2 เพราะต้องควบคุมเรือยางไปด้วย สู้ไปด้วย ลำบากมาก ตัวบอสน่ะไม่ยาก แต่ยากตรงควบคุม ส่วนบอสใหญ่ King Boo ก็ยากปานกลาง (สู้ชนะในการเล่นรอบที่สาม)
- ข้อเสียเดียวคือแอนิเมชันทำสวยแต่ไม่มีเสียงพากย์ ซึ่งเป็นวิถีนินเทนโดอยู่แล้ว ทำใจ
- เกมมี DLC เพิ่มเติม ซึ่งซื้อมาด้วยแต่ยังไม่ได้ลองเล่น
โดยสรุปคือชอบและประทับใจ ให้คะแนน 9/10 อยากให้ทำภาคต่อด้วย ซึ่งไม่ง่ายเลยเพราะภาค 3 เซ็ตมาตรฐานไว้สูงมาก