น่าจะเป็นซีรีส์เรื่องแรกของ Netflix ที่ได้ดูจนจบซีซัน นับตั้งแต่ดู House of Card เป็นต้นมา (ซึ่งก็ดูไปจนถึงแค่ซีซัน 2 แล้วขี้เกียจดูต่อ) เคยเขียนไว้ครั้งหนึ่งแล้วที่บล็อกเดิม
ดังนั้นตอนนี้ไม่ต้องเกริ่นอะไรกันอีก เพราะซีรีส์ฉายให้คนทั่วไปดูเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่านับจากนี้ไปมีสปอยล์เนื้อหาของเรื่อง
- 2 ตอนแรก (ที่เขียนถึงไปแล้วในบล็อกเก่า) สนุกที่สุด เพราะเป็นช่วง intro แนะนำตัวละครและปมในเรื่อง โดยค่อยๆ แง้มออกมาเป็นปริศนาทีละนิดว่าซอมบี้คืออะไร มาจากไหน
- หลังจากนั้น พอรู้แล้วว่าซอมบี้คืออะไร ความลึกลับน่าค้นหาก็ลดน้อยลงไป กลายเป็นหนังผจญภัย หาพวก ทำเควสต์ทั่วไป เลยทำให้ตอนที่ 3-4-5 ค่อนข้างหนืดๆ เนือยๆ ไปสักหน่อย (คิดว่ารวบจาก 3 ตอนทำมาเหลือแค่ 2 ตอนก็ได้)
- ตอนที่ 6 พอบิ้วเรื่องบิ้วตัวละครชุดใหม่มาได้พอสมควร ก็ได้เวลาไคลแมกซ์เล็กๆ กันสักรอบ บวกกับโยงไปยังปมปัญหาอันถัดไปที่ใหญ่ขึ้น (ซอมบี้เดินกลางวันได้) และจบแบบทิ้งให้ค้างไปต่อซีซัน 2 ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร
- สิ่งที่ดีมากๆ ของ Kingdom คิดว่าเป็นเรื่องของโปรดักชันที่อลังการมาก (คือนับตัวประกอบในฉากใหญ่ๆ แล้วก็รู้เลยว่าลงทุนสูงมาก) และงานด้านภาพที่สวยมาก ในระดับเป็นสารคดีท่องเที่ยวเกาหลีได้เลย ชนิดว่าถ้าหากมีคนทำทัวร์ตามรอย ดุสถานที่จริงในการถ่ายทำ Kingdom ก็ถือว่าน่าควักกระเป๋าไปทีเดียว เพราะฉากสวยมากจนไม่แน่ใจว่าของจริงมันจะสวยแบบนี้มั้ย
- จุดที่รู้สึกว่าซีรีส์ยังขาดๆ ไปหน่อยคือ แบ็คกราวน์ของตัวละคร ที่ยังปูมาไม่เยอะนัก เพราะโผล่มาในยุคปัจจุบันแล้วก็ซัดกับซอมบี้เลย เราจึงไม่ค่อยรู้เหตุผลหรือที่มาที่ไปในการกระทำของตัวละครแต่ละตัวอย่างลึกซึ้งเท่าไร และก็หวังว่าจะปูรายละเอียดให้ลึกขึ้นในซีซันต่อไป
ภาพรวมถือเป็นซีรีส์ที่สนุกดี ไอเดียแปลกใหม่คือ “ซอมบี้+ราชวงศ์ย้อนยุค” หนังไม่ใช่แนวหลอนๆ บ้านผีสิง แต่เป็นแนว disaster movie ภาคเจอโรคระบาดมากกว่า (ประมาณ World War Z เมื่อพันปีก่อนหน้า) แน่นอนว่าซอมบี้จะมีความแหวะๆ อยู่บ้าง ใครที่ไม่ชอบความแหวะก็อาจไม่เหมาะกับเรื่องนี้มากนัก