สินค้าอย่างหนึ่งที่ตั้งใจจะซื้อจาก Aliexpress เท่านั้นคือ “เคสมือถือ” เพราะมาจากแหล่งผลิตเซินเจิ้นโดยตรง แถมราคาถูกมากจนน่าตระหนก (และส่งฟรี!) ชนิดว่าต่อให้เป็นสินค้าแบบเดียวกันเป๊ะๆ นั่งกดสั่งจากบ้านก็ถูกกว่าค่ารถที่ออกไปซื้อตามห้างแล้ว
ข้อเสียอย่างเดียวของการสั่งจาก Aliexpress คือต้องรอนานสักหน่อย (ซึ่งถ้าไม่รีบก็ไม่มีปัญหา) และที่ผ่านมา สั่งมา 2-3 รอบแล้วก็ค่อนข้างโอเคหมด
ล่าสุดเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ Galaxy Note 10 และตอนแรกเข้าใจผิดนิดหน่อยว่าไม่แถมเคส (จริงๆ คือแถมมาให้ในกล่องแต่มองข้ามไปเอง) เลยกดสั่งจาก Aliexpress มาอีกรอบ
ปกติสั่งเคสจาก Aliexpress ไม่มีร้านประจำ ใช้วิธีค้นหาด้วย keyword ตามมาตรฐาน (คำว่า case หรือ clear case พร้อมชื่อรุ่น) ปัญหาของร้านจีนบน Aliexpress คือมันจะปั๊มเคสแบบเดียวกันมาสำหรับมือถือยี่ห้อต่างๆ รวดเดียว และเราต้องกดเลือกรุ่นเอาในหน้าสั่งสินค้า ทำให้บางครั้งรุ่นไม่ตรงกับภาพอยู่บ้าง (เช่น รอบนี้บางเพจมันยังใช้คำว่า Note 10 Pro อยู่เลย)
แต่ถ้าเราสั่งของที่ราคาถูกมากๆ เช่น เคสใส TPU ราคาไม่ถึง 1 ดอลลาร์ ก็ลดปัญหาลงได้มาก ถ้าของไม่ตรงรุ่นก็โยนทิ้งไปได้แบบไม่ต้องเสียดายมากนัก (เท่าที่สั่งมา ยังไม่เคยเจอปัญหาลักษณะนี้ คือตรงรุ่นทั้งหมด)
ปกติผมสั่งแต่เคสใส (และมีบทเรียนว่าสั่งทีเดียวควรสั่งมาสัก 2-3 ชิ้น เพราะใช้ไปสักพัก เคสใสมันจะเหลือง) แต่รอบนี้เปิดไปเจอเคสพลาสติกทำปลอมเป็นลายหนัง faux leather เลยลองสั่งมาดูหน่อย อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ของมาแล้วก็พบว่าสวยดี คุณภาพก็ตามราคา (4 ดอลลาร์) ซื้อในเมืองไทยคงไม่มีวันได้ราคานี้ (ลิงก์เผื่อใครจะสั่งตาม)
ปัญหาที่พบของการสั่งเคส (จริงๆ ก็คงรวมทุกกรณีไม่ว่าจะซื้อจากที่ไหน เพราะเป็นกับวัสดุ) คือเคยสั่งเคสแข็ง (hard case) ที่เป็นพลาสติกแข็ง แล้วทำมือถือตกด้วยความสูงเพียงนิดเดียว (วางไว้ข้างอ่างล้างหน้าแล้วตกลงในอ่าง) เคสแตกไปซะเลย เลยมีประสบการณ์ว่าควรใช้แต่เคสอ่อนจะดีที่สุด
ระยะเวลาจัดส่งรวมทั้งหมด 15 วัน คือเริ่มสั่งของวันที่ 31 สิงหาคม และของส่งมาถึงบ้านที่เมืองไทย 14 กันยายน 2019 (รอบนี้ช้าไปนิด รอบก่อนเร็วกว่านี้)