แฟนลิเวอร์พูลยุคเก่าๆ น่าจะคุ้นเคยกับระบบ Boot Room Staff ซึ่งนำชื่อมาจากห้องในสนามแอนฟิลด์ (ปัจจุบันกลายเป็นชื่อคาเฟ่ในแอนฟิลด์) และหมายถึงกลุ่มสต๊าฟที่กลายเป็นตำนานอย่าง Bill Shankly, Bob Paisley, Joe Fagan เป็นต้น
ระบบ Boot Room ล้มหายตายจากไปในยุค 90s (พร้อมกับความสำเร็จของลิเวอร์พูลที่ได้แชมป์ครั้งสุดท้ายปี 1990)
การกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้งของลิเวอร์พูลในปี 2020 ทำให้เกิดเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จนี้ มีโอกาสได้อ่านบทความในสยามกีฬา (ที่แปลบางส่วนมาจาก The Athletic อีกที 😅) เลยนึกถึงเรื่อง Boot Room อีกครั้ง
เมื่อพูดถึงแชมป์ใหญ่ของลิเวอร์พูลในรอบ 2 ปีนี้ (คือ UCL ปี 2019 และพรีเมียร์ลีกปี 2020 คนมักพูดถึง Jurgen Klopp อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่แกนหลักที่สำคัญจริงๆ อีก 2 คนคือผู้ช่วยมือซ้ายมือขวา Pepijn Lijnders (โค้ชฝึกซ้อม) และ Peter Krawietz (แมวมอง)
Kraweitz ติดตาม Klopp มาตั้งแต่ Mainz และ Dortmund โดยได้ฉายาจาก Klopp ว่า “The Eye”
ส่วน Lijnders อยู่กับลิเวอร์พูลมาตั้งแต่ปี 2014 ในยุค Brendan Rodgers และย้ายออกไปคุมทีมในเนเธอร์แลนด์สั้นๆ ช่วงปี 2018 ก่อนกลับมาอีกครั้ง — บทสัมภาษณ์ Lijnders ใน The Athletic (ต้องจ่ายเงินค่าสมาชิก)
อีกคนที่ไม่ใช่สต๊าฟฟูลไทม์คือ Thomas Gronnemark โค้ชลูกทุ่ม (throw-in coach) ที่ Klopp ดึงมาช่วยงานเพราะอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ที่เยอรมัน เรียกง่ายๆ ว่าเป็น geek ด้านลูกทุ่มโดยเฉพาะ (เพิ่งเห็นว่าแกมีเว็บส่วนตัวด้วย)
Thanks for inviting me two years ago Jürgen…
It´s been a couple of fantastic seasons ❤️⚽️ pic.twitter.com/Lhf3n5k79P— Thomas Gronnemark (@ThomasThrowin) July 22, 2020
ถึงแม้สต๊าฟเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในระบบ Boot Room แบบดั้งเดิม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของทีมกีฬา ที่มีโครงสร้างซับซ้อน ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีสต๊าฟฝีมือดีๆ และทำงานเข้าขากันอยู่เบื้องหลังเสมอ
ต้องรอติดตามดูว่า Boot Room เวอร์ชันปี 2020 จะพาลิเวอร์พูลไปได้ไกลขนาดไหนกัน